พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า วันนี้ (24พ.ย. 65 ) เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 11/2565 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยมี ก.ตร. , ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วม
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รายงานการดำเนินงานของอนุกรรมการ ก.ตร. ชุดต่างๆ ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ไปปฏิบัติ และพิจารณาการบริหารงานบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ อาทิ คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และกฎหมาย
โดยได้รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ของข้าราชการตำรวจ เดือน พ.ย 65 มีข้าราชการตำรวจลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 14 นาย ซึ่งเป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 9 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 5 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. 65 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น 229 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 178 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 51 นาย
มีการรายงานการเลือกตั้ง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 ราย ซึ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกผู้ทรงคุณวุฒิในส่วนของตำรวจ 3 ราย จะคัดเลือกจากอดีตข้าราชการตำรวจที่เคยดำรงตำแหน่งตั้งแต่ผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าขึ้นไป และเป็นผู้ซึ่งพ้นจากความเป็นข้าราชการตำรวจไปแล้วเกิน 1 ปี มีการเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่ 21 พ.ย.- 5 ธ.ค.2565
ส่วนที่ 2 ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นคนนอก จำนวน 3 ราย ก.ตร. จะร่วมกันหารือให้ได้รายชื่อจำนวน 6 ราย แล้วให้ข้าราชการตำรวจเลือกเหลือ 3 ราย ซึ่งจะมีการเลือกตั้งพร้อมกันในวันที่ 15 มี.ค.2566 โดยข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผกก.ขึ้นไป เป็นผู้มีสิทธิเลือก
นอกจากนี้ ยังมีวาระเพื่อพิจารณา กรณีของ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และศาลได้พิพากษาเพิกถอน ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เฉพาะในส่วนที่ไม่มีรายชื่อของผู้ฟ้องคดีได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผบช. โดยที่ประชุม ก.ตร.เห็นว่า ยังมีเนื้อหาข้อเท็จจริงบางประเด็น ที่ควรเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้องต่อศาล จึงต้องอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว โดยมอบหมายให้ เลขานุการ ก.ตร.ดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับในการปฏิบัติหน้า ที่อำนวยความปลอดภัยและการจราจรช่วงประชุมเอเปคที่ผ่านมา จนประสบความสำเร็จ ให้กำลังใจตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง
ส่วนสถานการณ์ภาคใต้ นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงกำลังพล ให้ระมัดระวัง ตื่นตัว มีวิธีการปฏิบัติให้ทันต่อเหตุการณ์ และแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว รวมทั้งผู้บาดเจ็บ สั่งให้ดูแลสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่