“บิ๊กตู่”ยินดี IMF มองเศรษฐกิจไทย ปี 66 ขยายตัวร้อยละ 3.7

21 พ.ย. 2565 | 10:08 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2565 | 17:31 น.

“บิ๊กตู่”ยินดี IMF มองเศรษฐกิจไทย โตสวนทางเศรษฐกิจโลก ปี 66 ขยายตัวร้อยละ 3.7 คาดการว่างงาน จะอยู่ในอัตราต่ำที่สุดในเอเชียแปซิฟิก พร้อมรับนักท่องเที่ยว และดึงดูดนักลงทุน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบถึงรายงานที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ประมาณการเศรษฐกิจไทย จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.7 ในปี 2566 จากร้อยละ 2.8 ในปีนี้

 

พร้อมกับคาดว่า การว่างงานของไทย จะอยู่ในอัตราต่ำที่สุดในเอเชียแปซิฟิกที่ 1.0% โดยไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่ IMF มองว่าเศรษฐกิจจะยังขยายตัวได้ ท่ามกลางการชะลอตัวของทั่วโลก ที่เผชิญกับความท้าทาย จากภาวะเงินเฟ้อ และต้นทุนการครองชีพที่สูงขึ้น

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวอีกว่า นายกฯ ยินดีกับผลการประเมินของ IMF และเห็นว่า ความชัดเจนของนโยบายรัฐบาล มีผลสำคัญอย่างยิ่ง ต่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยขององค์กร ทั้งในและต่างประเทศ

 

นับตั้งแต่สามารถจัดการกับ สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ภายใต้การควบคุมได้รัฐบาลได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเตรียมภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ แรงงานจำนวนมากให้พร้อมรับนักท่องเที่ยว การมีมาตรการดึงดูดนักลงทุน เปิดพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ๆ มาตรการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มศักยภาพสูง เข้าสู่ประเทศไทย

 

ในภาคการท่องเที่ยวรัฐบาล ได้เตรียมตัวมาตั้งแต่กลางปี 2564 ด้วยการนำร่องภูเก็ตแซนด์บ็อก แล้วทยอยเปิดประเทศอย่างระมัดระวัง จนถึงขณะนี้สามารถเปิดประเทศได้เต็มที่

 

หากจีนที่เป็นตลาดท่องเที่ยวสำคัญของไทยผ่อนคลายนโยบายจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งความชัดเจนของนโยบายนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของทั้งนักลงทุน นักท่องเที่ยว และผู้ที่ทำการประเมินประเทศไทย
 

 

สำหรับข้อมูลประมาณการเศรษฐกิจโดย IMF ดังกล่าว ได้มีการเปิดเผยระหว่างที่ นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ IMF เยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมเวทีการประชุมผู้นำเอเปค เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา

 

 IMF เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเอเปคส่วนใหญ่กำลังชะลอตัวลง และอย่างน้อย 1 ใน 3 ของโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ทำให้จีดีพีทั่วโลกในปี 2566 จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.7 ชะลอลงจากร้อยละ 3.2 ในปี 2565

 

อย่างไรก็ตาม  สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในบางพื้นที่ ยังคงมีความสดใส โดยอาเซียนเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งรายงานของ IMF แสดงให้เห็นว่า ไทยและจีนเป็นเพียง 2 ประเทศ ในเอเชียที่เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2566 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ปีก่อนหน้า ไม่นับรวมฮ่องกงและมาเก๊า