วันที่ 9 พ.ย.2565 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวเตรียมยื่น ม.157 กสทช. กรณีปล่อยให้มีการควบรวมทรู-ดีแทค
พร้อมทั้งตั้งคำถามการที่วันนี้ กสทช. จะมีการลงมติใช้เงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) จำนวน 1,600 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์บอลโลกซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การใช้เงิน กองทุนของ กสทช. ไปซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก เป็นทำผิดกฎหมายและใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ เพราะกองทุน กทปส. มีขึ้นเพื่อใช้วิจัยและพัฒนาไปจนถึงการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน เช่น การทำเสาสัญญา หรือการปรับปรุงบริการสำหรับผู้พิการในการเข้าถึงสื่อต่างๆ
ไม่ได้มีขึ้นเพื่อทำตามใบสั่งของใคร ซึ่งกรณีนี้ย้อนแย้งกับกรณีควบรวมทรู-ดีแทค ที่เป็นหน้าที่ของกสทช. มีอำนาจหน้าที่จะยับยั้งได้แต่กลับปล่อยให้เกิดขึ้น แต่กรณีนี้กฎหมายไม่มีวัตถุประสงค์ให้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกได้ แต่ กสทช. กลับพยายามทำให้ตนมีอำนาจ
นอกจากนี้ ศิริกัญญา ยังได้พูดถึงบทบาทของกสทช. รวมถึงกฎ Must have และ Must carry ที่ระบุไว้ต้องให้ฟรีทีวีเป็นผู้ถ่ายทอดเท่านั้น ว่ากฎนี้ทำให้เราไม่สามารถต่อรองขอลดราคาลิขสิทธิ์ได้ และเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เราต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์สูงเนื่องจากเรา จำเป็นต้องซื้อลิขสิทธิ์สำหรับการถ่ายทอดทุกช่องทาง
ทั้งนี้ สำหรับคำอธิบายว่าการถ่ายทอดสดจะช่วยสนับสนุนให้เยาวชน มีความสนใจในประเด็นของกีฬาและช่วยสนับสนุนให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพนั้น
ตนต้องตั้งคำถามกลับว่า ควรเป็นหน้าที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงหรือไม่ ที่จะเป็นผู้จ่ายลิขสิทธิ์แต่เมื่อพิจารณาแล้ว กกท. ก็ไม่ได้มีสภาพคล่องทางการเงินมากพอที่จะซื้อลิขสิทธิ์ได้
และอ้างว่าน่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 40,000 ล้านบาท ศิริกัญญากล่าวว่า หากมั่นใจว่าการถ่ายทอดสดครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงก็ให้อนุมัติงบกลางของรัฐบาลไปเลย ไม่ควรจะไปล้วงเงินของกองทุน กสทช. ที่ตัวเองไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมาย
ที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวก็ถูกรัฐบาลล้วงเอาเงินไปใช้โดยตลอดยกตัวอย่างเช่นในสมัยของ คสช. มีการใช้มาตรา 44 แก้วัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อให้กระทรวงการคลังสามารถกู้ยืมงานของกทปส. ล้วงเงินไปแล้วถึง 14,800 ล้านบาท ก่อนมีการแก้กฎว่าเงินกระทรวงการกู้ยืมไปแล้วไม่ต้องคืน
น.ส. ศิริกัญญา เรียกร้องให้ กสทช.ปฏิบัติหน้าที่ของตนตามข้อกฎหมายที่มี ไม่ปฏิบัติตามใบสั่งของใครที่พยายามใช้เงินจาก กทปส. เพื่อหาคะแนนเสียงให้กับตัวเองในช่วงใกล้เลือกตั้ง ถ้าในกรณีทรู-ดีแทค เป็นการบิดเบือนไม่ทำตามอำนาจทีาตนเองมี ในครั้งนี้ก็ไม่ควรบิดเบือนทำในสิ่งที่ตนไม่มีอำนาจ
“และอยากฝากสื่อมวลชนด้วยว่าเรื่องทรู-ดีแทค เรายังติดตามต่อ
วันพรุ่งนี้ (10 พ.ย. 65) เวลา 9.09 น. จะมีการยื่นฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนมติ กสทช. ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายร่วมกับภาคประชาชน
หลังจากนั้นในวัน(ศุกร์ที่11 พ.ย.65) จะไปยื่นหนังสือที่ ป.ป.ช. เพื่อฟ้องคณะกรรมการ กสทช. เสียงข้างมากที่ประพฤติมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ทุกคนได้ติดตามความคืบหน้าในการติดตามเรื่องทรู-ดีแทคกันต่อไป” ศิริกัญญากล่าวทิ้งท้าย