“ป.ป้อม-ป.ประยุทธ์” ทางใคร-ทางมัน?

09 พ.ย. 2565 | 11:31 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2565 | 18:44 น.
877

“ป.ป้อม-ป.ประยุทธ์” ทางใคร-ทางมัน? : พรรครวมไทยสร้างชาติปูทางรอไว้ให้แล้ว เหลือแต่เพียงการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า จะแยกทางเดินกับ "พี่ใหญ่-ประวิตร" แห่งพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่เท่านั้น

คอการเมืองต้องคอยจับตา หลังการ “ประชุมเอเปค” ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เสร็จสิ้นลง  “ป.ประยุทธ์” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะประกาศ “อนาคตทางการเมือง” ว่าจะ “ไปต่อหรือไม่”  


หาก “ไปต่อ” จะไปต่ออย่างไร ระหว่างอยู่ต่อกับ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) หรือ ไปร่วมกับพรรคการเมืองใหม่ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ที่ไปสร้าง “นั่งร้าน” รอไว้แล้ว


 

 รู้อนาคตบิ๊กตู่หลังเอเปค


โดยเมื่อวันที่ 7 พ.ย.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) และแถลงถึงเรื่องงานต่างๆ ว่า “เรื่องการเมือง ตอนนี้ผมยังไม่มีความคิดเห็นอะไรทั้งสิ้น ก็เป็นเรื่องของสื่อของข่าวที่ออกมากันทั้งหมด เพราะฉะนั้นขณะนี้ผมขอให้ความสำคัญกับการประชุมของผมก่อน เป็นเรื่องของประเทศชาติ ผมให้ความสำคัญกับเรื่องตรงนี้มากกว่า ขอยังไม่พูดอะไร”

 

เมื่อถามาหลังเอเปคจะให้คำตอบชัดเจนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ พยักหน้ารับแทนคำตอบ 


 ต่อมาวันที่ 8 พ.ย.2565 พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องที่พูดคุยในที่ประชุมครม. เป็นเรื่องเยียวยาช่วยเหลือประชาชน ตามที่มีคำร้องช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม จากเหตุความรุนแรงที่ จ.หนองบัวลำภู

รวมถึงเรื่องการให้ต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศไทย ซึ่งไม่ได้มีการถอนออกไปแต่เป็นการยกเลิกไว้ก่อน เอาปัญหาความไม่เข้าใจมาคุยกัน อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น ยังไม่มีการประกาศใช้ เป็นเรื่องของการอนุมัติหลักการ 


เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้เสียสมาธิหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "อ๋อ ยัง ยังไม่ย้าย" 


ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการแยกกันเดินรวมกันตีกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า "เออๆ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ไม่มีคำตอบ”


“บิ๊กตู่”อยากไปไหนก็ไป


ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 พ.ย.65 ที่ผ่านมาถึงกรณีได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ เกี่ยวกับเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐแล้วหรือยังว่า ไม่ได้พูดคุย เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวพล.อ.ประยุทธ์ จะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “อันนั้นเป็นเรื่องของท่านนายกฯ ต้องไปถามท่าน มาถามอะไรผมเล่าและไม่ได้คุยกันเรื่องนี้”


เมื่อถามถึงพรรคพลังประชารัฐมีการพูดถึงเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุย ยังไม่ได้มีการประชุม ส่วนจะประชุมเมื่อใดตนก็ยังตอบสื่อไม่ได้ เพราะยังไม่ได้นัด การพูดคุยต้องนัดสมาชิกพรรค กรรมการบริหารพรรคประชุมร่วมกัน


เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่แยกกันเดินใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ไม่รู้ ผมไม่รู้ ก็อยู่ด้วยกันทุกวัน แต่ไม่พูดเรื่องนี้” เมื่อถามว่า “ 3 ป.” จะไม่แยกจากกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่แยกหรอก จะไปแยกกันอย่างไร สนิทกันมา 40-50 ปี


เมื่อถามย้ำว่าแต่สิ่งที่มีการสื่อออกมาเหมือนจะแยกพรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็แยก ก็แยกไปไม่เป็นไร” เมื่อถามว่าต่อว่า เป็นลักษณะแยกกันเดินรวมกันตีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่รู้”เมื่อถามว่า ส.ส.หากรอความชัดเจนนานไป สส.อาจย้ายพรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เป็นไรการเมืองก็ว่ากันไป


เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่พลังประชารัฐ อาจจะขนส.ส.ไปด้วย พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ไปเลย ไปไหนก็ไป ผมไม่ว่าอะไร ใครอยากไปไหนเป็นเรื่องของตัวบุคคล” เมื่อถามอีกว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะไป ไม่ห้ามใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ห้าม ตนไม่ห้ามใครทั้งนั้น 

                           “ป.ป้อม-ป.ประยุทธ์” ทางใคร-ทางมัน?

 

“พีระพันธุ์”พร้อมรับ“บิ๊กตู่”

 

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 8 พ.ย.2565 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมจะมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ตนไม่ทราบ ยังไม่ได้คุย เมื่อถามว่า กระแสข่าวดังกล่าวแรงมาก นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า หลังเอเปคเห็นท่านพูดว่ายังนั้นไม่ใช่หรือ 


ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะไปเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ มาร่วมงานหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเลย เพราะตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมเอเปค เรื่องเช่นนี้ต้องให้ท่านเป็นผู้พูดคุยเอง แต่ข่าวออกไปอย่างไรตนไม่ทราบ ท่านก็ไม่เคยพูด กับตนเลย ที่ผ่านมาก็คุยกันแต่เรื่องงาน 


เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ มาร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติจะถือเป็นเรื่องดีหรือไม่ นายพีระพันธุ์ ตอบว่า “พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่ไหนก็ดีกับที่นั่น”


เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ มาจริงเปิดรับอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า “ถ้าท่านอยากจะมาทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ทางพรรคก็พร้อมที่จะต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้าท่านเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐเราจะไปพูดได้อย่างไร”


ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาจริง จะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ท่านยังไม่มาเลย จะไปพูดก่อนได้อย่างไร เพราะพูดไปล่วงหน้าไม่รู้จะเป็นอย่างไร 


...แม้ยังไม่มีความชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะเอาอย่างไรกับอนาคตทางการเมือง แต่ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ก็ปูทางรอไว้ให้แล้ว เหลือแต่เพียงการตัดสินใจว่าจะแยกทางเดินกับ “พี่ใหญ่-ประวิตร” แห่งพรรคพลังประชารัฐหรือไม่เท่านั้น...    

 

"วีระกร"ชง”บิ๊กป้อม”นั่งนายกฯแทน“บิ๊กตู่” 

 

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรพลังประชารัฐ กล่าวถึงข้อเสนอให้ 2 ป. (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เคลียร์ความชัดเจนเดี่ยวกับแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ว่า ตนอยู่พรรค พปชร.ก็อยากให้เป็นพรรคการเมืองที่มีความมั่นคง ส.ส.อยู่แล้วสบายใจว่าคราวหน้าใครจะเป็นนายกฯ กันแน่ 


ถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ท่านเป็นอีก 2 ปี แล้วเลือกนายกฯ ใหม่ มันก็ใช้บทเฉพาะกาลไม่ได้ ซึ่งก็จะเป็นเรื่องของ ส.ส.เท่านั้น ไม่มี ส.ว. 250 เสียงมาเกี่ยวข้อง ซึ่งมันไม่ใช่สมการสูตรเดิม

                                   “ป.ป้อม-ป.ประยุทธ์” ทางใคร-ทางมัน?
"ถ้าเป็นสูตรเดิมใครก็ต้องยอม จึงมีความเป็นไปได้สูงในครึ่ง 2 ปีหลังจะไม่ใช่พรรคพปชร.ที่จะเป็นรัฐบาล พรรคพปชร.จะไปเป็นฝ่ายค้านซึ่งมันก็ไม่ได้ ซึ่งคิดไปมันก็น่ากลัว หลังจากเปิดสภามาผมถามเพื่อนๆ น้องๆ ในพรรคประมาณ 20 คน เขาเห็นด้วยกับผม แต่เขาพูดไม่ได้ เพราะถ้าไม่มี ส.ว.มาช่วยโหวตเลือกนายกฯ ใครมันจะมาช่วย เงื่อนไขมันจะต่างจากเดิมไปเยอะ ซึ่งเรารับไม่ได้ด้วยซ้ำไป"


นายวีระกร กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านมานาน เขาต้องการเอานายทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน เขาก็ต้องยื่นเงื่อนไขให้พรรคภูมใจไทย ซึ่งจะเป็นพรรคใหญ่และเมื่อเงื่อนไขเป็นแบบนั้น พรรคพปชร.จะไปอยู่ตรงไหน ตนจึงจำเป็นต้องพูด เพราะเราจะอยู่ 4 ปีได้ ก็ต้องเอา พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นนายกฯ ซึ่งไม่ได้ลดเกรด พล.อ.ประยุทธ เราให้มาเป็นรองนายกฯ หรือ รัฐมนตรีว่าการแทน 


"โดยมีศักดิ์ศรีเท่ากับที่ พล.อ.ประวิตร เป็นรองนายกฯ อยู่ในตอนนี้ มีบารมีไม่ต่างกันเลย เพราะทุกคนรู้ว่าทั้ง 2 คนใกล้ชิดและรักกันมาก ตายแทนกันได้ ทุกคนที่เกรงใจ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เกรงใจ พล.อ.ประวิตร เหมือนกัน เมื่อมีความจำเป็นที่พรรคพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลอีก 4 ปี ก็ให้ พล.อ.ประวิตร ขึ้น เปลี่ยนสลับชื่อกันเฉยๆ แต่บารมีหน้าที่ก็เหมือนเดิมเท่าๆ กัน วันนี้ต้องคิดกันแล้ว จะคิดใกล้ๆ โหวตก็ไม่ได้” นายวีระกร กล่าว