“วัชระ”ตั้งโต๊ะช่วยผู้ค้าศูนย์อาหารกระทรวงยุติธรรมหลังถูกหลอกให้ลงทุน

วันนี้ (2 พ.ย.65) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่บริเวณศูนย์อาหารชั้น 1 กระทรวงยุติธรรม นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และว่าที่ร้อยตรี สุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ ทนายความ เดินทางมาตั้งโต๊ะรับหนังสือขอความเป็นธรรมจากพ่อค้าแม่ค้า กรณีบริษัท ทาร์ปอน เมแนจเม้นท์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ 211/81 ต.บ้านกล้วย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 

โดยมี นายชัชวาลย์ ชินะโปดก กรรมการผู้จัดการ คู่สัญญากับฝ่ายสวัสดิการ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้ได้รับสิทธิ์บริหารศูนย์อาหารชั้น 1กระทรวงยุติธรรม มีการโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนมาลงทุน โดยอ้างว่าจะมีลูกค้าเป็นข้าราชการ-ประชาชนที่มาติดต่อราชการ วันละ 2-3 พันคนต่อวันจะมาใช้บริการ ครั้นเมื่อมีผู้หลงเชื่อมาลงทุนค้าขาย กลับปรากฏว่ามีลูกค้าเพียง 10 % จากที่โฆษณาไว้คือ มีเพียงประมาณ 300 คนเท่านั้น ทำให้หลายร้านค้าเจ๊งจนต้องเลิกกิจการไป 

นายวัชระ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือพ่อค้า-แม่ค้าเหล่านี้อย่างเร่งด่วน เพราะมีผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากขาดทุนจากการหลงเชื่อคำโฆษณาของบริษัท ทาร์ปอน เมแนจเม้นท์ จำกัด แล้วยังถูกขู่ว่าทางบริษัทจะตัดกระแสไฟฟ้า น้ำประปา และงดการจำหน่ายแก๊สหุงต้มให้แก่ผู้เช่าที่ค้างชำระค่าเช่า พร้อมกับจะยกเลิกสัญญาเช่าในขั้นตอนต่อไปด้วย 

                                
ก่อนหน้านี้ ตนได้เคยยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เมื่อวันที่ 19 ก.ค.65 ขอให้เร่งเปิดเผยสัญญาของบริษัท กับยุติธรรม ต่อสาธารณชน เพื่อความโปร่งใส แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และหาเจ้าหน้าที่รัฐที่สมรู้ร่วมคิดทำผิดเพื่อลงโทษตามกฎหมาย พร้อมกับหาทางคืนเงินหรือเยียวยาให้กับผู้เสียหายทุกรายโดยเร็วที่สุด 

ขณะเดียวกัน ยังได้ร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ส.ค.65 แต่เรื่องทั้งหมดก็เงียบหาย ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด 
จึงอยากถาม นายสมศักดิ์ ว่า  ภายในกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีศูนย์อาหาร ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและบริหารงานของนายสมศักดิ์ หากผู้เช่าไม่ได้รับความยุติธรรม ทางกระทรวงจะให้ความยุติธรรมกับประชาชนทั้งประเทศได้อย่างไร

และไม่ใช่กรณีนี้เพียงอย่างเดียว ตนยังได้รับการร้องเรียนว่า มีข้าราชการของกระทรวงถูกตำรวจนำหมายจับมาบุกจับถึงในกระทรวงกลางวันแสกๆ และนำตัวไปกักขังไว้ 1 คืน แต่ต่อมาปรากฏว่า เป็นการจับผิดตัว ถือเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่งที่เจ้ากระทรวงยังไม่สามารถดูแลให้ความยุติธรรมกับข้าราชการที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาได้ แล้วถ้าเป็นตาสีตาสาจะถูกรังแกขนาดไหน 

ดังนั้น ในเร็วๆ นี้ จะไปร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาดำเนินการช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อ และลงโทษผู้เกี่ยวข้องต่อไป