กทม.เตรียมกระสอบทราย 2 ล้านใบ รับมือน้ำเขื่อนป่าสักฯ ขอความร่วมมือWFH

05 ต.ค. 2565 | 15:33 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2565 | 23:12 น.
589

กทม.เตรียมกระสอบทราย 2 ล้านใบ รับมือน้ำ“เขื่อนป่าสักฯ” เกินความจุ ต้องระบายผ่าน กทม. ขอความร่วมมือเวิร์คฟอร์มโฮม ยืดหยุ่นให้พนักงานกลับเร็ว ลดแออัดบนถนน

วันที่ 5 ต.ค.2565 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบันว่า จากเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2565 มีการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้มีความเป็นห่วงกับสถานการณ์ของ กทม. โดยนายกฯระบุว่า เป็นห่วง และหาก กทม.อยากจะได้อะไรหรือขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมอะไร ขอให้ กทม.บอก ทางเราก็ได้รับการอนุเคราะห์แล้วส่วนหนึ่ง

 

และในวันที่ 3 ต.ค. 2565 ที่มีฝนตกหนักทางหน่วยทหาร ก็ได้นำรถสูงออกมาช่วยประชาชน อีกประเด็นคือนายกฯ ต้องการให้เราทำงานแบบจับมือระหว่างกรมชลประทานและกระทรวงมหาดไทย และได้มีการประชุมกันถึงเรื่องการช่วยเหลือและเยียวยา

 

นอกจากนี้ กทม.ไม่สามารถบอกให้ใครทำงานที่บ้าน (เวิร์คฟรอมโฮม) ได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือให้หน่วยงานยืดหยุ่นให้พนักงานกลับเร็ว เพื่อลดความแออัดบนท้องถนน เพราะสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) เตือนว่าน้ำเหนือจะค่อย ๆ ลงมาตั้งแต่วันนี้และสูงขึ้นในวันที่ 7-8 ต.ค. ซึ่งคาดว่าวันนี้ (5 ต.ค. 2565) ฝนจะตกในภาคกลางและ กทม.

 

โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) สั่งให้รายงานภาพจากกล้อง CCTV เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำทั้งก่อนและหลังฝนตก พร้อมให้สำนักประชาสัมพันธ์ กทม. แจ้งเตือนสภาพอากาศประชาชนให้กับประชาชนในเวลา 05.00 น. และ 15.00 น.

น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

 

ขณะที่นายเจษฎา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. รายงานสถานการณ์น้ำว่า น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตามแนวเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนสถานีบางไทร น้ำไหลผ่าน 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจากการประสานงานกับกรมชลประทานจะเริ่มผลักดันน้ำไปทิศตะวันตกมากขึ้น

 

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิต์ ยังสามารถรับน้ำได้ แต่น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เกินความจุ 106% แล้วซึ่งจะต้องระบายน้ำผ่าน กทม. ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดในวันนี้ (5 ต.ค.) เวลา 18.03 น. ระดับฐานน้ำ +1.10 เมตร โดยเดือนต.ค. น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในวันที่ 8 ต.ค. ระดับฐานน้ำ +2.20 เมตร ถึงประมาณ 2.30 เมตร

 

สำหรับปริมาณฝนสะสมตลอดปี 2565 อยู่ที่ 1,979 มิลลิเมตร ส่วนปริมาณฝนสะสมในเดือน ก.ย.อยู่ที่ 801 มิลลิเมตร ปริมาณฝนสะสมในเดือนต.ค. อยู่ที่ 60 มิลลิเมตร โดย กทม.เตรียมแผนรับมือน้ำเหนือและน้ำฝนไว้แล้ว จัดกระสอบทรายอุดจุดฟันหลอ 76 จุด เช่น ท่าเรือเทเวศร์ ถนนทรงวาด ท่าราชวรดิฐ เป็นต้น

กทม.เตรียมกระสอบทราย 2 ล้านใบ รับมือน้ำเขื่อนป่าสักฯ ขอความร่วมมือWFH

ส่วนการเตรียมรับน้ำจากฝนนั้นปัจจุบัน กทม.ได้เร่งลดระดับน้ำในคลองสายหลัก โดยใช้แผงบังคับทิศทางน้ำ อาทิ บริเวณคลองลาดพร้าวได้มีการใช้แผงบังคับน้ำให้น้ำไหลไปยังคลองบางซื่อ และคลองสามเสน ซึ่งระยะทางลงสู่เจ้าพระยาที่สั้นกว่า

 

รวมถึงคลองบางเขนบริเวณจุดตัดคลองเปรมประชากร ก็ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮดรอลิกส์ขนาด 30 นิ้ว 2 เครื่อง เพื่อเร่งน้ำของคลองบางเขนให้เร็วขึ้น และสถานีสูบน้ำคลองพระโขนงซึ่งถึงแม้มีเครื่องสูบน้ำที่สามารถระบายน้ำได้ 155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีแล้ว แต่ก็ได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำไฮดรอลิกส์เพิ่ม 5 เครื่อง เพื่อลดระดับน้ำในคลองแสนแสบและคลองประเวศบุรีรมย์

 

ส่วนสถานการณ์น้ำทะเลหนุนและน้ำเหนือที่คาดว่าจะมาพร้อมกันในช่วง 7-10 ต.ค. นายเจษฎา กล่าวว่า กทม.มีแผนทั้งบุคลากร และการรองรับโดยมีการเตรียมกระสอบทราย 2.5 ล้านใบ อุดจุดที่ฟันหลอตลอดแนว และเสริมคันกั้นสูงขึ้น 2.8-3.5 เมตร แต่ก็ยังมีข้อกังวลกรณีที่อาจเกิดแรงดันน้ำตามจุดอ่อนไหว จุดรอยต่อที่มองไม่เห็น ทางสำนักการระบายน้ำได้เตรียมชุดปฏิบัติการสำหรับเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ไว้แล้ว

กทม.เตรียมกระสอบทราย 2 ล้านใบ รับมือน้ำเขื่อนป่าสักฯ ขอความร่วมมือWFH

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมาที่เกิดฝนตกหนัก เนื่องมาจากมีแนวร่องอยู่กลาง กทม. จึงทำให้ฝนตกหนักถึง 100 มิลลิเมตร แต่วันนี้ (5 ต.ค. 2565) พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา แนวร่องนั้นหายไป เนื่องจากลมหนาวพัดลงมา หากให้คาดการณ์น่าจะเป็นบริเวณเขตด้านใต้ของกทม. ได้แก่ บางนา บางขุนเทียน ลาดกระบัง และประเวศ อาจมีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง หรือฝนอาจตกทั่ว กทม. จึงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง


เมื่อถามว่า น้ำเหนือที่มีการคาดการณ์ว่าจะอยู่ในอัตรา 3,500-4,000 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาทีนั้น นายเจษฎษา กล่าวว่า คงไม่น่าจะเป็นไปได้และมีการประสานงานกับกรมชลประทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมชลประทานจะเป็นผู้บริหารเบี่ยงน้ำไปทางซ้ายทางขวา ส่วน กทม.ได้เตรียมกระสอบทราย 2 ล้านใบ อุดแนวฟันหลอครบแล้ว ยืนยันว่า มีเพียงพอห่วงเพียงน้ำฝนที่จะกระทบกับประชาชน

 

เมื่อถามย้ำว่า เคยเกิดเหตุน้ำล้นเกินกระสอบทรายในพื้นที่ กทม.เมื่อปีที่ผ่าน นายเจษฎา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ครั้งนั้นสำนักการระบายน้ำ ได้นำมาเป็นประสบการณ์ และเสริมกระสอบทรายให้หนาและแข็งแรงขึ้น ส่วนการเสริมกระสอบทรายตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาจากจุดรอยต่อจังหวัดนนทบุรี จนถึงรอยต่อจังหวัดสมุทรปราการ เสริมขึ้นไปสูงสุดจากเดิม +2.6 ม.รทก. ตลอดความยาว 3 กิโลเมตร ทั้งนี้ กทม. ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในจุดวางกระสอบทรายตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจจะมีการรั่วซึม หากน้ำทะเลหนุนสูงในบางช่วง โดยมีสถานีสูบน้ำ และเครื่องสูบน้ำตลอดแนว