สื่อนอกเกาะติดสถานการณ์ 'หยุดประยุทธ์' 24 ส.ค. หลังศาลสั่งยุติหน้าที่นายกฯ
สื่อต่างประเทศเกาะติด 'ข่าว 24 ส.ค. 8ปีนายกฯ' หลังศาลรัฐธรรมนูญไทยสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างรอการวินิจฉัยของศาลเกี่ยวกับระยะเวลาที่เขาจะสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำได้ตามกฎหมาย ระบุไม่มีผลทางเศรษฐกิจมากนัก
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก สื่อใหญ่ที่เน้นเประเด็นด้านเศรษฐกิจ รายงานอ้างอิงนักวิเคราะห์ว่า คำสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรีของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ครั้งนี้อาจสร้างความกังวลต่อนักลงทุนบ้าง เเม้ว่าอาจไม่ค่อยมีผลกระทบโดยตรงต่อ เศรษฐกิจไทย มากนักก็ตาม
โดยบลูมเบิร์กได้สัมภาษณ์นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้บริหารสำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ที่ให้ความเห็นว่า ความเสี่ยงทางการเมืองอาจชะลอการตัดสินใจในการเข้ามาลงทุนของบริษัทต่าง ๆ ที่มีเเผนย้ายการผลิตมาที่ไทย แต่ขณะเดียวกันก็อาจสร้างข้อเสียเปรียบให้ไทยหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านเช่น เวียดนาม
รายงานชิ้นนี้ยังสัมภาษณ์ ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ที่กล่าวว่า หากดูปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ ยังไม่มีอะไรที่ต่างจากเดิม เขายังบอกด้วยว่า มุมมองหลักของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ต่อประเทศไทยในตอนนี้ก็คือ “ไทยมีโอกาสขาขึ้นมากกว่าขาลง” เพราะการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัว และความเสี่ยงทางการเมืองยังอยู่ในระดับต่ำ
ด้านสำนักข่าวเอพี รายงานว่า พลเอกประยุทธ์น่าจะถูกสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ เป็นเวลา ‘ชั่วคราว’เท่านั้น โดยระบุว่า ที่ผ่าน ๆ มา โดยทั่วไปศาลรัฐธรรมนูญมักจะตัดสินกรณีทางการเมืองหลายกรณีไปในทิศทางเดียวกับจุดยืนของรัฐบาล แต่หากในที่สุดเเล้ว ศาลให้พลเอกประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ต่อไป คำตัดสินดังกล่าวก็อาจจะจุดชนวน ทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่มีพลังมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ก็อาจเปิดแผลหรือรอยเเยกที่ร้าวลึกอีกครั้งในการเมืองไทย ซึ่งเคยเกิดความปั่นป่วนมาหลายครั้งแล้ว ตั้งเเต่กองทัพทำรัฐประหารโค่นอำนาจอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ. 2549
เอพียังรายงานด้วยว่า พลเอกประยุทธ์จะยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมต่อไป โดยอ้างคำพูดของนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล ทั้งนี้ ในคำสั่งศาลเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ตุลาการลงมติ 5 ต่อ 4 เรื่องการระงับการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และให้พลเอกประยุทธ์แสดงเหตุผลของฝ่ายตนเองภายใน 15 วัน
สื่อใหญ่รายนี้ยังรายงานด้วยว่า กลุ่มชนชั้นปกครองของไทยสายอนุรักษ์นิยมที่มีอยู่มายาวนานและรวมถึงกองทัพ เคยรู้สึกว่าความนิยมในตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นปัจจัยคุกคามสถาบันฯ และอิทธิพลของชนชั้นปกครอง
ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบเเน่ชัดว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินว่าพลเอกประยุทธ์ ยังจะสามารถดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ยาวนานเกินกว่าวันที่ 23 สิงหาคม 2565 หรือไม่
ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานอ้างอิงการสัมภาษณ์นายชลน่าน ศรีเเก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แกนนำฝ่ายค้านในสภา ซึ่งเป็นพรรคที่ยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุเพียงว่า การตัดสินใจของศาล (ให้พลเอกประยุทธ์ระงับการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกฯ) ครั้งนี้ สะท้อนความกังวลของพรรคเพื่อไทย แต่ก็ไม่ได้เเสดงความเห็นเพิ่มเติมใดๆ
นอกจากนี้ สื่อรอยเตอร์ยังมีการรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมขับไล่พลเอกประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง โดยระบุมีการชุมนุมของผู้เรียกร้องประชาธิปไตยจำนวนนับร้อยบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยวานนี้ (24 ส.ค.) ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า พวกเขามองการระงับการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์นั้นยังไม่เพียงพอ พวกเขาจะยังชุมนุมต่อไปเพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้อง นั่นคือพวกเขาต้องการให้มีการยุบสภา และให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ให้ไวที่สุด
ข้อมูลอ้างอิง