“บิ๊กตู่” เทกระจาด ครม. เคาะ 32 วาระ แต่งตั้ง 47 คน ก่อนลุ้นศาลชี้ปมนายกฯ 8 ปี

การประชุม ครม. เมื่อวานนี้ นับเป็นการประชุมครั้งสำคัญ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องไปลุ้นระทึก กรณี ศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะพิจารณารับคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ส่งผ่านประธานรัฐสภา มาให้วินิจฉัยเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปี นายกฯ ไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ 

เป็นที่น่าสนใจว่า ในการประชุมครม.ครั้งนี้ คล้ายกับว่านายกฯ ต้องการทิ้งทวน และพิจารณาเรื่องสำคัญให้ผ่านพ้นไปก่อน เพราะวันข้างหน้า อาจมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้ นั่นจึงทำให้การประชุมรอบนี้หน่วยงานต่าง ๆ จึงเสนอเรื่องสำคัญเข้ามาให้ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบจำนวนมาก 

โดยจากการตรวจสอบข้อมูลวาระ และมติที่ประชุมครม. พบว่า มีเรื่องเสนอเข้ามาให้ที่ประชุมไฟเขียวมากถึง 32 วาระ ครอบคลุมเรื่องต่าง ๆ ทั้ง ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐกิจ สังคม ด้านต่างประเทศ และคิดเป็นวงเงินที่เห็นชอบไปในครั้งนี้อย่างน้อย 2.3 หมื่นล้านบาท รวมทั้งวาระการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงของหลายหน่วยงานอีกกว่า 47 ตำแหน่ง 

สำหรับรายละเอียดของแต่ละเรื่อง ประกอบไปด้วยเรื่องต่าง ๆ แยกเป็นด้านดังนี้

ด้านกฎหมาย 

• ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. ....
• ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. ....
• ครม.เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2562

ด้านเศรษฐกิจ-สังคม 

• ครม.เห็นชอบมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพที่มีความซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น โดยใหห้ถอนฟ้อง และคืนเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ จำนวน 28,345 ราย วงเงิน 245 ล้านบาท
• ครม.เห็นชอบการพิจารณารับรองวัดคาทอลิก ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564
• ครม.รับทราบรายงานตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  พ.ศ. 2544 ประจำปี 2564
• ครม.อนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลางรายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,923 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 18,000 - 150,000 บาทต่อคัน
• ครม.เห็นชอบการเพิ่ม “กิจกรรมส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-Border e-Commerce) ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active” วงเงินโครงการรวม 500 ล้านบาท
• ครม.รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง ครั้งที่ 1/2565
• ครม.รับทราบรายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนมิถุนายน และครึ่งแรกของปี 2565
• ครม.รับทราบรายงานสรุปภาพรวมดัชนีเศรษฐกิจการค้าประจำเดือนมิถุนายน 2565
• ครม.รับทราบรายงานการวิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีเพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงวิธีปฏิบัติราชการของหน่วยงานของรัฐ
• ครม.อนุมัติปรับเพิ่มราคาน้ำนมดิบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโคนม โดยเพิ่มราคากลางรับซื้อน้ำนมดิบ ณ หน้าโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม จากเดิม 19 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 20.50 บาทต่อกิโลกรัม
• ครม.เห็นชอบการจัดทำโครงการบ้านพักข้าราชการ (บ้านหลวง) ของสำนักงบประมาณภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) จำนวน 1 อาคาร รวม 79 ห้อง วงเงิน 75 ล้านบาท
• ครม.รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กรณีการโอนสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปเป็นขององค์การสวนสัตว์
• ครม.อนุมัติผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาทวงเงิน 18,447 ล้านบาท ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อใช้จ่ายค่าบริการสาธารณสุขสำหรับโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 สำหรับหน่วยบริการ/สถานพยาบาล ระหว่างวันที  1 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2565

ด้านต่างประเทศ 

• ครม.เห็นชอบการชำระค่าบำรุงสมาชิกคณะกรรมการด้านนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Committee on Digital Economy Policy: CDEP) ภายใต้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Co-operation and Development: OECD)
• ครม.เห็นชอบการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา สำหรับโครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 67 ช่วงเสียมราฐ-อันลองเวง-จวม/สะงำ ราชอาณาจักรกัมพูชา วงเงินกู้จำนวน 983 ล้านบาท
• ครม.อนุมัติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง กรอบวงเงิน 350 ล้านบาท
• ครม.เห็นชอบการสมัครสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติของไทยวาระปี ค.ศ. 2025 -2027
• ครม.รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 7

การแต่งตั้ง 

• แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย รวม 37 ตำแหน่ง
• ต่ออายุนายกุลิศ สมบัติศิริ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566
• แต่งตั้ง นายวิรัตน์ ธัชศฤงคารสกุล ที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ BOI 
• แต่งตั้ง นายวีรศักดิ์ ทิพย์มณเฑียร ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการข่าว (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี 
• แต่งตั้งร้อยตำรวจโทหญิง สุทธิมา พิพัฒน์พิบูลย์ ที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ก.พ. 
• แต่งตั้ง นายสุวัฒน์ เอื้อเฟื้อ ที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ก.พ. 
• แต่งตั้ง นางสาววรวรรณ พลิคามิน ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 
• แต่งตั้ง นางสาววิริยา เนตรน้อย ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี 
• แต่งตั้ง น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ให้ดำรงตำแหน่ง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
• การต่อสัญญาจ้าง นายชีระ วงศบูรณะ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในปีแรกอัตราเดือนละ 274,000 บาท 
• แต่งตั้ง นายวิบูลย์ วงสกุล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในปีแรกอัตราเดือนละ 250,000 บาท