“สามารถ”ผนึกกมธ.ลุยแก้หนี้สินประชาชน ติดอาวุธทางปัญญาหลุดพ้นแชร์ลูกโซ่

21 ส.ค. 2565 | 16:33 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ส.ค. 2565 | 23:44 น.

“สามารถ”ผนึก”กรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สินแห่งชาติ จัดสัมมนาขับเคลื่อนแก้หนี้สินประชาชน ติดอาวุธทางปัญญาหลุดพ้นจากแชร์ลูกโซ่

วันที่ 21 สิงหาคม 2565 ที่ โรงแรมที่อาร์ ร็อก ฮิลล์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงชลา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และ ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนา กระบวนการยุติธรรมทางเลือกโดยพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562

 

โดยมี นายพยม พรหมเพชร กรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎรกล่าวเปิดการสัมมนา ซึ่งในงานยังมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่านร่วมกิจกรรม อาทิ นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ / พ.ต.ท.จรินทร์ ชะโนวรรณ ผช.สุพล เพชรานนท์ เป็นต้น และมีผู้มีเกียรติ ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจำนวนหลายร้อยท่าน และ  มี นาย ศาตรา ศรีปาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา  เข้าร่วมด้วย


 

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ได้มาร่วมเป็นวิทยากร สัมมนาในหัวข้อ การโกงโดย แชร์ลูกโซ่ ซึ่งนายสามารถได้กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ตนเองต้องการมาพูดถึงเป็นสิ่งแรกคือการติดอาวุธทางความคิด ให้มีความรู้ให้ทุกท่านไม่ต้องถูกกลอุบายให้เข้าไปร่วมในเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งในประเทศไทยเรามีคดีแรก เป็นคดีตัวอย่างคือ คดีแชร์แม่ชม้อย 

 

ถ้าตนเองย้อนกลับไปพูดเรื่อง แชร์แม่ชม้อยเจ้าแม่แชร์ลูฏโซ่คนแรก  ที่ศาลจำคุกท้าวแชร์ ถือเป็นโทษสูงอันดับสองในกินเนสบุ๊คก็ว่าได้ เพราะโทษติดที่ศาลตัดสินในตอน 27 ก.ค.2532 รวมจำคุก 154,005 ปี ซึ่งติดจริง 7 ปี 11 เดือน 5 วัน  โดยแม่ชม้อยขัดตั้งบริษัทค้าน้ำมัน ชื่อ บริษัทปิโตเลียมแอนด์มารีน เซอร์วิส จำกัด ทำการค้าน้ำมันทกชนิด มีเรือเดินทะเลสำหรับขนส่งน้ำมัน ได้เริ่มชักชวนประชาชนมาเล่นแชร์น้ำมัน อ้างว่าจะได้รับค่าตอบแทน 78% ต่อปี จนมีผู้ถูกหลอกร่วมหมื่นราย ได้รับความเสียหาย สี่พันกว่าล้าน ในสมัย 30 ปีก่อน 

สมัยนั้นไม่มีกฎหมายใดจะจับแม่ชม้อยได้ มีเพียงกฎหมายอาญาฉ้อโกงประชาชน มาตรา343 และคนที่ได้เงินจากแม่ชม้อยก็ไม่มีใครมาร้องทุกข์  ทำให้สถาบันทางการเงินในสมัยนั้นเริ่มจะทรุดเพราะประชาชนนำเงินไปลงทุน ไปฝากกับแม่ชม้อยกันหมด จน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นว่าประเทศเริ่มมีความเสียหายได้สั่งกรมสรรพากรไปตรวจสอบ บริษัทปิโตเลียมแอนด์มารีน เซอร์วิส จำกัด ของแม่ชม้อย ที่อ้างว่าทำกิจการค้าน้ำมันว่า มีจริงหรือไม่ 

                       “สามารถ”ผนึกกมธ.ลุยแก้หนี้สินประชาชน ติดอาวุธทางปัญญาหลุดพ้นแชร์ลูกโซ่
ปรากฏว่า บริษัทดังกล่าวไม่มีการเสียภาษี งบดุลต่างๆ มีแต่เอสเงินจากคนใหม่มาจ่ายให้กับคนเก่าไปเรื่อยๆ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เห็นว่าถ้าปล่อยไว้ประเทศจะพินาศ และไม่มีกฎหมายใดๆเอาผิดแม่ชม้อยได้เลย จึงต้องเอากฎหมายพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ขึ้นมา เป็นการออกฎหมายฉุกเฉิน ว่าใครชักชวนให้ร่วมลงทุนโดยเสนออัตราดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมาย โดยบริษัทไม่ได้ดำเนินกิจการใดๆ ถือเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน 


และในปี 2528 แม่ชม้อยถูกจับกุมมีผู้เสียหายจำนวน 13,248 คน รวมให้กู้ยืมเงินไปทั้งสิ้น 23,519 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,043,997,795 บาท และผู้เสียหายที่ให้กู้ยืมเงินภายหลังพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินฯ ประกาศใช้บังคับ (ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2527 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2528) เป็นผู้เสียหายจำนวน 2,983 คน รวมให้กู้ยืมเงินไปทั้งสิ้น 3,641 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 510,584,645 บาท ยอดประมาณ 4,500  ล้านบาท

                       “สามารถ”ผนึกกมธ.ลุยแก้หนี้สินประชาชน ติดอาวุธทางปัญญาหลุดพ้นแชร์ลูกโซ่

“นี่คือตัวอย่างความน่ากลัวของแชร์ลูกโซ่ ผมเองเคยลงไปพบผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่นับหมื่นคน รู้สึกสะเทือนใจกับบางเคส เช่น ไปพบผู้เสียหายรายหนึ่งจนมาก บ้านเป็นสังกะสี หารายได้จากการปูกระเบื้องวันละ 300 บาท  ถูกเพื่อนสมัยอนุบาลมาชักชวนลงทุนกับบริษัทหนึ่งซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนสูง 


จึงได้ปรึกษากับญาติเอาที่นาที่เป็นมรดกของตระกูลเข้าธนาคาร ได้เงินมาสามแสน ไปลงทุนกับบริษัทแชร์ลูกโซ่ ผ่านไปสองเดือนบริษัทดังกล่าวถูก ดีเอสไอจับ และเงินก็ถูกอายัด ทำให้ชีวิตของผู้เสียหายคนดังกล่าวเสียใจคิดสั้นจะห่าตัวตายโดยไป จังหวัดสมุทรสาคร จะกระโดดน้ำตาย แต่สามีได้ห้ามปรามไว้ทัน

 

 และเร็วๆ นี้ก็มีข่าวครูสาวสองคนกระโดดน้ำฆ่าตัวตายโดยตนเองก็ได้ส่งพวงหรีดไปให้ และนำเรื่องราวมีตีแผ่ถึงโทษภัยการถูกโกง และแชร์ลูกโซ่  


ตนเองในฐานะเป็นกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ เคยเข้าร่วมประชุมตามวาระต่างๆ มีความเห็นว่า ถ้าเราดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนได้อย่างแท้จริง เพราะคนที่จ่ายหนี้สินดอกเบี้ยมากที่สุดคือ คนจน 

                         “สามารถ”ผนึกกมธ.ลุยแก้หนี้สินประชาชน ติดอาวุธทางปัญญาหลุดพ้นแชร์ลูกโซ่
ยกตัวอย่าง คนรวยรูดบัตรเครดิต ก็สามารถจ่ายต้นปิดการใช้บัตรได้ทุกเดือน ส่วนคนจน จ่ายได้แต่ดอก ต้นยังไม่มีจ่าย นั่นคือปัญหาที่ต้องแก้ไขให้หนี้มันหมด สมัยตนเองเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้ทำโครงการ ไกล่เกลี่ยหนี้สิน ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการก็ยินดีจ่ายหนี้สิน แต่พอถึงเวลาทางประชาชนไม่มีเงินก็ไม่สามารถจ่ายได้

 

เพราะฉะนั้นประเด็นหลักเราต้องแก้ไขให้ถูก โดยตนเองกำลังขับเคลื่อนการแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชนร่วมกับ กรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติสภาผู้แทนราษฎร เพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป พร้อมอาสา ตัดถนนความยุติธรรมนี้ให้รวดเร็วและเป็นธรรม  เพื่อให้คนไทยต้องไม่ถูกโกง และ คนโดนโกงต้องได้เงินคืน