“สามารถ”ฉะ”พิธา”อย่าจุ้นเรื่องประเทศ​อื่นระวังชักศึกเข้า​บ้าน

นาย​สามารถ​ เจน​ชัย​จิตร​ว​นิช​ อดีต​ผู้ช่วย​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ได้​โพสต์​ข้อความ​ผ่าน​เฟซบุ๊กส่วน​ตัว​ กรณีที่​นาย​พิธา​ ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ หัวหน้า​พรรค​ก้าวไกล​ ออกมาวิจารณ์​สถานการณ์​ในประเทศ​เมียนมาว่า​

“วันนี้​ผม​คง​ต้อง​ออกมา​พูด​ให้​พ่อแม่​พี่น้อง​ประชาชน​ที่​ส่ง​ข้อมูล​มาให้​ผมว่า​ นายพิธา​ ไปจุ้นสถานการณ์​ในเมียนมา​ ผมมองว่า นายพิธา​ ชอบหาเหาใส่หัว​ แต่ถ้าเป็นการทำที่เป็นประโยชน์​ต่อชาติ​บ้านเมือง​อย่างแท้จริง​ผมก็เห็นด้วย​

แต่ผมเห็น​ว่า นายพิธา​ มักชอบพูดแสดง​ความเห็น​หรือ​เคลื่อนไหว​แต่ละเรื่องมีแต่สร้างความวุ่นวาย​ให้กับสังคม​ อย่างเช่นเรื่องล่าสุด​ ที่ไปวิพากษ์วิจารณ์​การเมือง​ในประเทศ​เมียนมา​ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง​

ผมอยากจะบอก นายพิธา ว่า แต่ละประเทศนั้นก็​มีกฏ​หมาย​ที่แตกต่าง​กัน​ การกระทำในประเทศ​หนึ่งอาจไม่ผิดกฎหมาย​ แต่ไปกระทำในอีกประเทศ​ก็ผิดกฎหมาย​

การประหารชีวิต​ใน​ต่างประเทศ​มีหลายประเทศ​ที่มีกฏ​หมาย​ประหารชีวิต​อยู่​ โดยมีถึง 56 ประเทศ ซึ่งยังคงมีโทษประหารชีวิต  แม้แต่ประเทศ​ที่เรียกว่าเป็นประชาธิปไตย​เต็มขั้นอย่างประเทศ​สหรัฐ​อเมริกา ​ก็มีโทษ​ประหารชีวิต​เช่นเดียวกัน​

ดังนั้น​ การที่ นาย​พิธา​ ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ เป็​นถึง​หัวหน้า​พรรคก้าวไกล​ ควรน่าจะมีจิตสำนึก​ต่อชาติ​บ้านเมือง​มากกว่านี้  ดังสุภาษิต​โบราณ​ที่ว่า​ “อย่าชักน้ำเข้าลึก​ อย่าชักศึก​เข้า​บ้าน​“ เพราะ​เรื่องของบ้านเมืองคนอื่น​  ไม่ใช่​เรื่อง​ของ​ประเทศ​ไทย​

ดังนั้น​การกระทำของ นายพิธา​ นั้นขัดทั้งหลักการทูต​ ขัดทั้งหลักการทางการปกครอง​ และ​ ขัดทั้งหลักการบริหาร​ราชการ​แผ่นดิน​

ผมขอหยิบยก​คำใกล้ตัวมาสะท้อน​ให้นายพิธาเห็นภาพจำที่ใกล้​ขึ้น​ คือ​ คำว่า “ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า” หมายถึงเรื่องราวไม่ดีภายในครอบครัวไม่ควรนำไปเล่าให้คนนอกบ้านฟัง และเรื่องราวไม่ดี คำนินทาว่าร้ายที่คนภายนอกพูดถึงคนในครอบครัวก็ไม่ควรนำมาเล่าให้คนภายในครอบครัวฟัง​

นี่ขนาดเป็นแค่เรื่องในครอบครัว​ เขาก็ห้ามแล้ว​ เพราะไม่งั้นจะวุ่นวาย​ แต่นายพิธา​ ที่เป็นถึงหัวหน้า​พรรคก้าวไกล​ กลับมา​ทำตัวสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศ​ พอประเทศ​วุ่นวาย​ คนในประเทศ​ก็วุ่นวาย​ด้วย

ดังนั้น​ ผมจึงอยากเตือน นาย​พิธา​ อย่าได้ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี​ ให้เป็น​แบบ​อย่างให้กับเยาวชน​ ผมคิดว่านายพิธา​ ควรมองผลประโยชน์​ของ​ชาติ​ให้มากกว่าผลประโยชน์​ทางการเมืองของนาย​พิธาเอง