นายกฯ แจงผ่อนคลายถอด“หน้ากากอนามัย” คิดรอบคอบแล้ว

24 มิ.ย. 2565 | 15:43 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2565 | 22:48 น.

นายกฯ แจงผ่อนคลายถอดหน้ากากอนามัยคิดรอบคอบแล้ว ถึงได้ประกาศออกมา ชี้เป็นเรื่องของความเดือดร้อนและความจำเป็น

วันนี้(24 มิ.ย.65 )  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  กล่าวถึงกรณีราชกิจจานุเบกษาประกาศการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ที่ให้การสวมหน้ากากอนามัย เป็นไปโดยความสมัครใจ ทั่วราชอาณาจักร และมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.2565 เป็นตันว่า แล้วอย่างไรอ่านกันหรือยัง ว่าทุกอย่างเขียนไว้อย่างไร 

 

“อยากให้สื่อไปทำความเข้าใจกันก่อนแล้วค่อยมาถามว่า ออกมาเพื่อความมุ่งหมายอะไร และอะไรคือ สาระสำคัญ แล้วค่อยมาถามต่อ แล้วมาตรการที่ว่ามีปัญหาอย่างไร ออกมาเพื่อใคร ผมเชื่อว่ารอบคอบแล้ว ถึงได้ประกาศออกมา เพราะเป็นเรื่องของความเดือดร้อนและความจำเป็น อย่าให้มีปัญหาทุกเรื่อง” นายกฯ ระบุ 

ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนวันที่ 23 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งที่ลงนามโดย นายกรัฐมนตรี ระถึงมาตรการผ่อนคลายการสวม “หน้ากากอนามัย” โดยให้เป็นไปตามตามสมัครใจของแต่ละคนทั่วราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนสามารถดําเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติยิ่งขึ้น 


โดยขอให้ประชาชนพิจารณาประโยชน์ตามข้อมูลที่ฝ่ายสาธารณสุขรายงานว่า การสวมหน้ากากอย่างถูกวิธี เป็นประโยชน์ด้านสุขอนามัยในการป้องกันการแพร่เชื้อและการรับเชื้อ ทั้งเชื้อโรคโควิดและโรคติดเชื้อ ทางระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมทั้งยังสามารถลดความเสี่ยงอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย) 

จึงมีข้อแนะนําให้ประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับ บุคคลอื่นในสถานที่หรือในพื้นที่แออัด มีการรวมกลุ่มคนจํานวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดีเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อ


กรณีเป็นผู้เข้าข่ายเสี่ยงที่เมื่อติดเชื้อโควิด - 19 จะมีอาการรุนแรงหรือความเสี่ยงสูงต่อการ เสียชีวิต (กลุ่ม ๖๐๔) หรือผู้ที่มีโรคประจําตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจควรสวมหน้ากากอนามัย อย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ และกรณีเป็นผู้ติดเชื้อ โควิด - 19 หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเชื้อโควิด - 19 จําเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี ตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่โรค


ทั้งให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งชี้แจง ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้ประชาชนทุกภาคส่วนทราบถึงแนวการปฏิบัติตนเพื่อให้เกิดความปลอดภัย สอดคล้องกับ มาตรการสังคม ชุมชน และองค์กร เปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post-Pandemic เฝ้าระวังและกํากับติดตาม สถานการณ์ รวมทั้งจัดทําแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น