ดีลลับ“ธรรมนัส-ทักษิณ” ดีลล้ม “ประยุทธ์”

27 พ.ค. 2565 | 11:23 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2565 | 18:53 น.
2.6 k

ดีลลับ“ธรรมนัส-ทักษิณ” ดีลล้ม “ประยุทธ์” : รายงานการเมืองฐานเศรษฐกิจ, ธรรมนัส : เวลานี้พี่น้องประชาชนยังสาหัสอยู่ ประเทศต้องการการเปลี่ยนแปลงมั้ย ประชาชนเขาบอกว่า เขาต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง

น่าสนใจอย่างยิ่งกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “พรรคเศรษฐกิจไทย” หลังมีกระแสข่าวว่า บิ๊กน้อย-พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธา ตัวแทนของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่กลุ่ม “3 ป.” มีความอึดอัดขัดแย้งกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย จนคิดจะ “ลาออก” จากหัวหน้าพรรค


“ผม และ ร.อ.ธรรมนัส มีความไม่เข้าใจกัน ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน ต่างคนต่างทำ เลยคิดว่าไปด้วยกันลำบาก แต่สิ่งสำคัญถ้ารับฟังทั้งสองฝ่าย มันก็ไปได้ แต่นี่คือ การรับฟังไม่มี” พล.อ.วิชญ์ ระบุ

แต่ยังไม่ทันที่ “บิ๊กน้อย-พล.อ.วิชญ์” จะยื่นใบลาออก ก็เจอกับเกมชิงตัดหน้า “ปลดออก” เสียก่อนของพลพรรคเศรษฐกิจไทย ด้วยการลาออกจากกรรมการบริหาร(กก.บห.) พรรค 15 คน จากทั้งหมดที่มี 22 คน ส่งผลให้ กก.บห.ทั้งชุดถูกโละไปโดยปริยาย ต้องมีการเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ ที่จะมีขึ้นวันที่ 7 มิ.ย.นี้

 

แม้ในเวลาต่อมา พล.อ.วิชญ์ จะลาออกจากหัวหน้าพรรค แต่ก็เป็นเพียงแค่ประกาศให้สาธารณชนรับรู้ แต่ผลโดยกฎระเบียบพรรค หลุดจาก “หัวหน้าพรรค” ก่อนหน้าแล้ว เมื่อกก.บห.พรรค 15 คน ยื่นลาออก

ว่ากันว่า ปมที่ทำให้เกิดการ “แตกหัก” ระหว่าง พล.อ.วิชญ์ กับ ร.อ.ธรรมนัส คือ ส.ส.กลุ่มธรรมนัส ไม่พอใจพฤติการณ์ของ พล.อ.วิชญ์ ที่ชอบใช้อำนาจแบบทหาร และให้บุคคลภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องในพรรค และยังมีเรื่องเงินบริจาคเข้าพรรค  


อีกประเด็นคือ เรื่องที่กรรมการบริหารพรรคจะเสนอ “แคนดิเตตนายกฯ" ในบัญชีพรรค ที่ไม่ใช่หัวหน้าพรรค จึงทำให้ “พล.อ.วิชญ์” ไม่พอใจ 


ปัญหาดังกล่าวได้ยินไปถึงหู พล.อ.ประวิตร จึงได้ไฟเขียว “พล.อ.วิชญ์”  ว่า “ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็ออกมา...” 


เมื่อ “บิ๊กป้อม” ไม่มี “พล.อ.วิชญ์” เป็นมือไม้คุมส.ส.-คุมเกม ในพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ย่อมสร้างความหวั่นไหวให้กับ บิ๊กตู่-พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในเรื่อง “เสียงส.ส.ฝ่ายรัฐบาล” ที่จะผลักดันผ่านกฎหมายสำคัญ และศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสมัยประชุมสภาฯ นี้ ที่ปัจจุบันอยู่ในภาวะ “เสียงปริ่มน้ำ” 


ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส ก็มีท่าทีชัดเจนว่าตั้งธงเป็นปฏิปักษ์กับ “บิ๊กตู่” นับแต่ถูกปลดพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี


ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาก็มีกระแสข่าวมาตลอดว่า “พรรคเพื่อไทย” จะอาศัยเสียงส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ปัจจุบันมีอยู่ 16 เสียง และกลุ่มพรรคเล็ก ราว 10 เสียง หาทางล้ม “บิ๊กตู่” ด้วยการโหวตไม่รับกฎหมายสำคัญ คือร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 และ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

 

สอดรับกับ “บิ๊กดีล” ที่มีกระแสข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้ “ดีล” กับ “ทักษิณ” เจ้าของพรรคเพื่อไทย เพื่อเดินงานการเมืองร่วมกัน โดยมี 2 แนวทาง คือ ทำพรรคเศรษฐกิจไทยต่อ และเป็นแนวร่วมเข้าร่วมรัฐบาลหน้า  หรือ ยุบพรรคเศรษฐกิจไทย แล้วยกส.ส.ไปรวมกับพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดย ร.อ.ธรรมนัส จะได้ตำแหน่งสำคัญคือ “รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย”

 

อนาคตของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” จะเดินไปตลอดรอดฝั่งจนครบเทอม 4 ปี หรือไม่ หรือมีอะไรมาทำให้ “รัฐนาวา” ลำนี้ ต้องล่มลงเสียก่อน เป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างยิ่ง...  

+++++++


“ธรรมนัส”เปิดใจประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง 


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับรายการ “เนชั่นอินไซด์” ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 ถึงรัฐบาลปัจจุบันว่า “ตั้งแต่ผมเป็นรมต.จนมาทำหน้าที่เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ประชาชนเรียกหา ต้องการผู้นำที่มาแก้ปัญหาวิกฤติ


ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแก้วิกฤติได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้พี่น้องประชาชนยังสาหัสอยู่ ประเทศต้องการการเปลี่ยนแปลงมั้ย ประชาชนเขาบอกว่า เขาต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง


เมื่อถามว่าจะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ มั้ย  ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า เราจะอยู่เคียงข้างประชาชน ประชาชนต้องการอะไร เราจะอยู่เคียงข้าง 


หาก พล.อ.ประวิตร ขอให้สนับสนุนรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องการเมืองต้องอยู่ที่เหตุและผล ผมมีเหตุมีผล จะตัดสินใจอะไร ต้องมีที่มาที่ไป จะใช้อารมณ์ตัดสินใจไม่ได้เด็ดขาด 


“หลังๆ ผมไม่ค่อยได้คุยกับใคร ในพรรคพลังประชารัฐ ผมผูกพันกับพรรคเล็กฉันท์เพื่อน พี่น้อง เราคุยกันเรื่องบ้านเมือง”


ส่วนกระแสข่าวเรื่อง “ดีลลับ”  ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมก็ยังไม่เข้าใจคืออะไร ไม่มีดีลลับอะไร” 


ต่อกรณีดีลลับกับคนแดนไกล ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า “ผมไปต่างประเทศมีธุระต้องทำ 


ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า  พรรคเศรษฐกิจไทยก่อตั้งโดยผม ผมทำโครงสร้างพรรคมาเป็นปีแล้ว การขับเคลื่อนของพรรค ถึงเวลาหนึ่งผมถูกขับออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ ผมชวนส.ส. 21 คนออกมา มี 3 คนไปพรรคภูมิใจไทย ที่เหลือ 18 คน ก็มาอยู่ในครอบครัวเศรษฐกิจไทย ถึงวันหนึ่ง “ผู้ใหญ่บางท่าน” อยากให้ พล.อ.วิชญ์  มานั่ง (หัวหน้าพรรค) ก็ไม่คัดค้าน วิถีการเป็นลูกผู้ชายทหาร กับการเมืองไม่เหมือนกัน ต่างกันฟ้ากับดิน ท่านอาจไม่สบายใจหลายๆ เรื่อง ผมไม่โกรธที่ท่านออกมาให้สัมภาษณ์ คนเป็นนักการเมืองมีหลายมติ ไม่ได้มีมิติเดียว 


ตอนผมอยู่ต่างประเทศ ก็คิดเมื่อกลับมาจะหาเวลาเคลียร์ แต่มันสายไปแล้ว ที่จะนั่งคุยกัน สมาชิกพรรคเห็นว่าหากปล่อยไว้ จะเกิดปัญหา เลยตัดสินใจลาออกจากกรรมการบริหารพรรค


เมื่อถามว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะอยู่กับ “3 ป.” หรือ พรรคเพื่อไทย เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวว่า  อนาคตต้องดูหลังเลือกตั้งว่าเราได้ส.ส.เท่าไหร่ ถ้าได้ส.ส.น้อย เราก็ไม่มีความหมาย 


ส่วนชื่อแคนดิเดตนายกฯ จะเป็นใคร ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า  ต้องเป็นนักการที่มีเคมี มีคนในใจแล้ว ปิดไว้ก่อน และเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนเดียว