“วันที่รัฐบาล สั่งยุบสภา เราพร้อมหมดแล้ว และมั่นใจว่าเราจะเปลี่ยนประเทศไทยจากสภาพที่เต็มไปด้วยหนี้ มองไม่เห็นอนาคต มีแต่ความทุกข์ เป็นประเทศที่หาเงินได้ง่าย เต็มไปด้วยโอกาส มีแต่ความหวังที่เป็นจริงได้ และไม่ต้องสิ้นหวังแบบทุกวันนี้ เรามั่นใจว่า หากพรรคเพื่อไทย ได้มีโอกาสบริหารประเทศ ถึง 8 ปีเช่นนี้ เราจะไม่เห็นปรากฏการณ์ คนอยากย้ายประเทศ
รวมถึงพี่น้องชาวไทยที่อยู่ต่างประเทศ ก็จะอยากกลับมาร่วมสร้างความสุข สร้างความมั่งคั่ง และสร้างความเจริญในประเทศไทย ต้องเกิดปรากฎการณ์สมองไหลกลับประเทศไทยในเร็ววัน ด้วยฝีมือของพรรคเพื่อไทย Reverse brain drain เป้าหมายต่อไป พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ เราต้องได้อำนาจรัฐ ทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจึงจะเป็นจริงได้”
นั่นคือ ปณิธาน ของ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บุตรสาวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศไว้ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ของพรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2565 ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
ก่อนหน้านั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เคยพูดถึงเป้าหมาย “แลนด์สไลด์” ของพรรคเพื่อไทย ไว้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2564 ว่า
“เราตั้งเป้าหมายว่าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ต้องได้ ส.ส. 253 ที่นั่งขึ้นไป ถึงจะปิด 250 ส.ว.ได้ เราพร้อมที่จะรับผู้ที่มีอุดมการณ์และเจตนารมณ์เช่นเดียวกันกับพรรค คนที่มาต่างตอบรับด้วยความเต็มใจในทางยุทธศาสตร์ทางประชาธิปไตย ถ้าเราไม่รวมกัน เราสู้เขาไม่ได้”
ดูด 9 อดีตส.ส.กลับเพื่อไทย
นั่นคือเป้าหมายที่ “พรรคเพื่อไทย” ตั้งไว้ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “แลนด์สไลด์”ดังกล่าวปรากฏการณ์ “ดูด” อดีตอดีตส.ส.กลับเข้าพรรค ก็ยังเดินหน้าต่อไป
โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2565 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค ได้ร่วมกันแถลงเปิดตัว อดีต ส.ส.นครราชสีมา และ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ จำนวน 9 คน ร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทุกคนได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกโดยกระบวนการภายในของพรรคเพื่อไทยเป็นเบื้องต้น ก่อนที่จะนำไปสู่การพิจารณาตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ทั้งการหยั่งเสียงจากพี่น้องประชาชนหรือไพรมารีโหวต และเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการสรรหา รวมทั้งคณะกรรมการบริหารพรรคตามกฎหมาย
“แต่ละท่านมีศักยภาพที่จะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนและนำพาประเทศชาติออกจากวิกฤติตามเป้าหมายแลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน ให้ได้ ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ มากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร คือ ให้ได้ ส.ส.250 เสียงขึ้นไป เพื่อนำไปสู่การสร้างความหวังและอนาคตที่ดีให้ลูกหลาน”
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง กล่าวว่า อดีต ส.ส.และผู้ที่เข้าร่วมอุดมการณ์พรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ ล้วนแต่มีประสบการณ์การทำงานการเมือง การช่วยเหลือประชาชนและประสบการณ์ทางธุรกิจ รวมถึงคนรุ่นใหม่ ซึ่งเล็งเห็นปัญหาของพี่น้องประชาชนและวิกฤติของบ้านเมือง
จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเพื่อแก้ไขปัญหาและนำพาพี่น้องประชาชนออกจากวิกฤติ ซึ่งพื้นที่ จ.นครราชสีมา จะนำโดย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และอดีตรมช.มหาดไทย นายสุพงษ์พิช รุ่งเป้า อดีต ส.ส.นครราชสีมา นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ นักธุรกิจชาว จ.นครราชสีมา และ น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ นักธุรกิจรุ่นใหม่ชาว จ.นครราชสีมา ซึ่งมีส่วนอย่างยิ่งในการผลักดันโครงการเมืองโคราชมหานคร
ในส่วนพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จะนำโดย นายสุรศักดิ์ นาคดี อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ นายจำรัส เวียงสงค์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ นายสมนึก เฮงวาณิชย์ถิรธนา อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ นายเล็ง พยุงแสนกุล และ ว่าที่ร.ต.เสนาะ พรหมสวัสดิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ซึ่งมีประสบการณ์การประสานงานในองค์กรช่วยเหลือผู้อพยพและการพัฒนาด้านการศึกษา
“พรรคได้มอบหมายให้ทั้ง 9 ท่าน ซึ่งถือเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเบื้องต้นให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือและประสานงานในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน”
อ้างประชาชนเรียกร้อง
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กล่าวเปิดใจว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนและพรรคเพื่อไทย ที่ให้โอกาสมาทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย และไว้วางใจให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เบื้องต้น ของพรรคเพื่อไทย
นายบุญจง กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้พี่น้องประชาชนเดือนร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลที่บริหารอยู่ในขณะนี้ไม่ได้เร่งแก้ไขปัญหา ปล่อยให้พี่น้องประชาชนต้องยากลำบาก ปล่อยให้ราคาน้ำมันแพง สินค้าราคาแพง ปุ๋ยแพงแต่สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ
“ขณะนี้พี่น้องประชาชนในพื้นที่สะท้อนอย่างชัดเจนว่า ให้เรามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นความหวังให้พี่น้องประชาชน ซึ่งเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนจะไม่ทอดทิ้งคนรากหญ้า ซึ่งเราพร้อมจะมาเป็นฟันเฟืองในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้” นายบุญจง ระบุ
สำหรับ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ เคยเป็น ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย สมัยแรก ในปี 2544 และเป็น ส.ส.อีกครั้งในปี 2548 กระทั่งเป็น ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ในปี 2550
ต่อมาได้สลับขั้วไปร่วมรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย และเป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จากนั้นในปี 2561 นายบุญจง ได้ย้ายเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครราชสีมา ในปี 2562 แต่สอบตก
อดีตส.ส.ไหลกลับเพื่อไทย
สำหรับการ “ดูด” อดีตส.ส.กลับพรรคเพื่อไทยนั้น ก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็น อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไหลกลับบ้านเก่า
ทีมแรก “จาตุรนต์ ฉายแสง” และพี่น้องตระกูลฉายแสง แห่งฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย อดีต ส.ส.เพื่อนพ้อง นปช. พากันหอบหิ้วกันกลับถิ่นเก่า ทั้ง ฐิติมา ฉายแสง วุฒิพงษ์ ฉายแสง เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ก่อแก้ว พิกุลทอง นพ.เหวง โตจิราการ นิคม ไวยรัชพานิช วีระกานต์ มุสิกพงศ์ ประภัสร์ จงสงวน ปิดฉาก พรรคเส้นทางใหม่
ตามมาด้วย “สามารถ แก้วมีชัย” อดีต ส.ส.เชียงราย หลายสมัย ที่ก่อนหน้านี้ได้ถอยออกจากเพื่อไทย ไปร่วมสร้างพรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็กลับบ้านเก่า
เป้าดูดส.ส.กลับรังเก่า
นอกจากนั้นยังมีอดีตส.ส.อีกหลายกลุ่มหลายคน ที่อยู่ในเป้าหมาย “ดูด” กลับ ไม่ว่าจะเป็น วิชิต ปลั่งศรีสกุล, นพ.ประจวบ อึ้งภากรณ์, กลุ่มบ้านใหญ่เมืองมหาชัย ของ “เฮียม้อ” มณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ ที่มีโอกาสอำลาพรรคชาติไทยพัฒนา กลับมาเพื่อไทย
เพราะหลังจากเลือกตั้งสมัยที่แล้ว “เฮียม้อ” ตัดสินใจไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนา ตามคำร้องขอของบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ นครปฐม ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการ แต่ไม่ได้มีปัญหาใดๆ กับคนแดนไกล แต่ผลเลือกตั้ง ทีมผู้สมัคร ส.ส.ในสังกัดพ่ายแพ้เรียบ
ขณะเดียวกันเป้าหมายของคนที่จะดึงกลับ ยังอาจจะมี บ้านใหญ่นครปฐม (สะสมทรัพย์ บางส่วน), กลุ่มสามมิตร, กำแพงเพชร (วราเทพ รัตนากร), วิรัช รัตนเศรษฐ, กลุ่มยงยุทธ ติยะไพรัช, วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล, กลุ่มสมุทรปราการ ประชา ประสพดี สงคราม กิจเลิศไพโรจน์
นอกจากเป้าหมายดังกล่าวแล้ว แว่วมาว่า...ในอนาคตเตรียมจะ “ดูด” ส.ส.อีก “ล็อตใหญ่” เข้าพรรค เพื่อสานฝันภารกิจแลนด์สไลด์ พา “ทักษิณ” กลับบ้าน...