“ต่อพงษ์”ชี้รัฐบาลสอบตกประชาสัมพันธ์โครงการ “เจอ แจก จบ” ทำคนแห่โทร 1330

09 มี.ค. 2565 | 16:44 น.
อัปเดตล่าสุด :09 มี.ค. 2565 | 23:52 น.

“ต่อพงษ์”ชี้รัฐบาลสอบตกประชาสัมพันธ์โครงการ “เจอ แจก จบ” ทำคนแห่โทร 1330 สอบถามขั้นตอนรักษาโควิด ถามมี ศบค.ไว้ทำไม ถ้าไม่ทำหน้าที่สร้างความเข้าใจกับประชาชน

นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ประธานคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พรรคไทยสร้างไทย ในฐานะอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องรัฐบาลเร่งสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนรับทราบถึงแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิดรูปแบบใหม่หรือ "เจอ แจก จบ" ที่จะเน้นให้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่มากหรือ“กลุ่มสีเขียว”รับยาจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวเองที่บ้าน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเหมือนระบบเดิม เพื่อลดภาระของโรงพยาบาลและค่าใช้จ่ายภาครัฐ


เนื่องจากสถานการณ์โควิดขณะนี้พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นระดับ 4 ถึง 5 หมื่นรายต่อวัน แต่กลับปรากฏว่ารัฐบาลไม่สามารถสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงขั้นตอนในการเข้ารับการรักษารูปแบบใหม่ได้ จึงสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะวิกฤติในระบบสาธารณสุข อย่างเช่นที่กลุ่มแพทย์ชนบทพยายามสะท้อนถึงปัญหาในภาคปฎิบัติ โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์เรื่อง “เจอ แจก จบ” แก้โควิดของรัฐบาล ที่ถือว่าเข้าขั้นสอบตก เพราะพบว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่รับรู้ถึงขั้นตอนในการเข้าสู่ระบบการรักษาที่ดีพอ 

“เมื่อพบว่าตัวเองติดเชื้อก็จะรีบโทรเข้าสายด่วน 1330 ไว้ก่อน แต่กลับพบว่าส่วนใหญ่โทรไม่ติด หรือ โทรติด แต่เจ้าหน้าที่บอกให้รอสายไว้ก่อนแล้วจะโทรกลับ แต่สุดท้ายก็ไม่มีการโทรกลับมา คงเป็นเพราะแต่ละวันมีประชาชนโทรใช้บริการเป็นจำนวนมาก 

 

ดังนั้น ถ้ารัฐบาลสามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงวิธีการเข้ารับการรักษาได้ดีพอหรือทั่วถึงพอ คนก็จะลดการโทรเข้าสาย 1330 ไปเอง ภาระก็จะไม่ตกหนักอยู่กับเจ้าหน้าที่ผู้รับสายเช่นนี้”

นายต่อพงษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้พรรคไทยสร้างไทยได้ให้ความเห็นและเตือนไปถึงรัฐบาลว่า ต้องควบคุมการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขยายวงกว้าง แต่ในที่สุดการระบาดก็กลับมาหนักอีกครั้ง 

                                     “ต่อพงษ์”ชี้รัฐบาลสอบตกประชาสัมพันธ์โครงการ “เจอ แจก จบ” ทำคนแห่โทร 1330

ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรชะล่าใจคิดแต่เพียงว่าโควิดโอมิครอน แม้จะติดเชื้อมากแต่มีผู้เสียชีวิตน้อย เพราะหากผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาล่าช้าหรือไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางหรือผู้สูงวัย ก็อาจจะทำให้เข้าสู่อาการผู้ป่วยหนักและมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาลเองไม่ใช่ผู้ป่วยดูแลตัวเองไม่ดี 

 

“รัฐบาลจะต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจได้ง่ายและรวดเร็ว เพื่อแยกผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษา ซึ่งหากล่าช้าผลกระทบอาจยาวนานไปถึงช่วงสงกรานต์ นอกจากนี้รัฐบาลยังไม่ได้สื่อสารถึงสายพันธุ์ BA.2 ที่มีการแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้น 


ดังนั้นจึงควรรีบบอกข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับรู้ทั้งเชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่และขั้นตอนการเข้าสู่ระบบการรักษาแบบใหม่ จึงอยากถามว่าตอนนี้รัฐบาลมี ศบค.ไว้ทำไม ทำไมจึงไม่ใช้ ศบค.ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงเรื่องเหล่านี้ หากมีไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรอีก ก็ควรจะเลิกไปเสียทั้ง ศบค.และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” นายต่อพงษ์ กล่าว