"ส.ว." ให้ กม.ลูก2ฉบับ ผ่านเฉพาะร่างของครม.

22 ก.พ. 2565 | 14:12 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.พ. 2565 | 22:33 น.

"ส.ว.กิตติศักดิ์"ยัน ให้ กม.ลูก 2 ฉบับผ่านเฉพาะร่างของครม. ซัดเพื่อไทย ชงแก้มาตรา 28,29 ฉวยโอกาสลักไก่คนนอกแทรกแซง ด้านเสรี ชี้ ร่างของคณะรัฐมนตรี ครอบคลุม เป็นกลางมากที่สุด

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา

 

วันที่ 22 ก.พ.2565 นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 24-25 ก.พ.เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ส่วนตัวจะให้ร่างทั้ง 2 ฉบับผ่านเฉพาะที่เสนอมาจากครม.เท่านั้น แต่ร่างที่เสนอโดยส.ส.ฝ่ายรัฐบาล หรือส.ส.ฝ่ายค้านจะไม่ให้ผ่านแม้แต่ฉบับเดียว โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ฉบับพรรคเพื่อไทย จะไม่ให้ผ่านแน่นอน เพราะไปแก้ไขมาตรา28-29 เปิดช่องให้คนนอกแทรกแซงครอบงำพรรคได้ เป็นการฉวยโอกาสลักไก่ เพื่อผลประโยชน์คนนอกถือว่าน่าเกลียด อาจขัดกับรัฐธรรมนูญที่เขียนกลไกป้องกันการแทรกแซงครอบงำจากคนภายนอก

 

"ส่วนที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า การขอฟังคำปรึกษา หารือจากคนนอก ไม่ถือเป็นการครอบงำ ถ้าการให้คำปรึกษาเป็นเพียงการเสนอแนะ แต่อำนาจการตัดสินใจยังคงอยู่กับพรรคนั้น เป็นการตีความเข้าข้างตัวเอง ไม่คิดเคารพกติกากฎหมาย"นายกิตติศักดิ์ กล่าว
 

สอดคล้องกับความเห็นของ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ว่า ส.ว.จะรับหลักการร่างกฎหมายลูก 2ฉบับ ในส่วนของฝ่ายใดบ้าง แต่ส่วนตัวแนวโน้มจะให้ผ่านเฉพาะร่างที่เสนอโดยครม.เท่านั้น ร่างที่เสนอจากส่วนอื่นๆคงไม่ให้ผ่าน เพราะมองแล้วร่างที่เสนอโดยครม.มีความครอบคลุม เป็นกลางมากที่สุด แต่ร่างที่เสนอโดยส.ส.ทำเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง ไม่ได้ช่วยให้เกิดการพัฒนาการเมือง อย่างร่างแก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ของพรรคเพื่อไทย มีการเปิดช่องให้คนนอกมาแทรกแซงพรรคการเมืองได้ ดูแล้วไปไกลเกินไป แม้จะอ้างว่า การขอคำปรึกษาหารือ ไม่เข้าข่ายครอบงำ ฟังแล้วไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไร เพราะถึงอย่างไรก็เปิดช่องให้คนนอก นอมินี นายทุนแทรกแซง ชักใยอยู่เบื้องหลังได้

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.

การอ้างเหตุผลขอแก้ไขว่าป้องกันการกลั่นแกล้งทางการเมืองนั้น เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ว่ามีการกลั่นแกล้งจริงหรือไม่ การพิจารณาแก้ไขกฎหมายลูก2ฉบับ ต้องทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้มีโอกาสยุบสภาได้ตลอดเวลา เพราะมีปัญหาความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลมาก ถ้ากฎหมายลูกทั้ง 2ฉบับ ไม่เสร็จก็เลือกตั้งไม่ได้ ถ้ายุบสภาขณะที่กฎหมายลูกไม่เสร็จ ยิ่งยุ่งกันใหญ่