อย่าคิดเยอะ! ไพบูลย์ ยังเชื่อ"ไม่ยุบสภา"เมินกระแสพรรคแตก

02 ก.พ. 2565 | 12:43 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2565 | 20:27 น.

“ไพบูลย์” แจง พปชร.แพ้เลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ไม่กระทบอีก 399 เขต ไม่สนเสียงวิจารณ์พรรคแตก เชื่อไม่มียุบสภา เลือกตั้งใหญ่ต้องรออีกปีกว่า เหน็บใครทนไม่ไหวให้ลาออก

วันที่ 1 ก.พ. 65 ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมส.ส.พปชร.ถึงสถานการณ์ภายในพรรคหลังแพ้การเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร ว่า เรียบร้อยดี ไม่มีอะไร เพราะการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าวเป็นเพียง 1 เขต ใน 400 เขตเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งใหญ่คราวหน้ามี 400 เขต ดังนั้น จึงเหลืออีก 399 เขต แต่ต้องถือว่าหนึ่งเขตดังกล่าวเป็นข้อมูลให้กับทางพรรค ไม่ได้มีผลกระทบอย่างที่เป็นนัยสำคัญใดๆ จากนี้พรรคจะต้องทำงานดูแลประชาชนหนักขึ้น และทำทุกอย่างเพื่อประเทศ การเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าต้องรออีกปีกว่า ซึ่งยังมีเวลาที่รัฐบาลจะได้ทำงาน เชื่อมั่นว่าไม่มีการยุบสภา จะอยู่จนครบวาระ โดยจะมีการเลือกตั้งใหญ่เดือนมีนาคม 2566 ซึ่งพรรคก็มีความพร้อมเลือกตั้งใน 400 เขต คิดว่า ทุกอย่างไม่มีปัญหา หรืออะไรที่น่าเป็นห่วง ซึ่งทุกพรรคก็เป็นเช่นนี้ หลังการเลือกตั้งก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปตามปกติ


เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่-จตุจักร อาจสะท้อนความนิยมของคนกทม.ที่มีต่อพปชร. นายไพบูลย์ กล่าวว่า จะมองอย่างไรก็ได้ แต่ก็เป็นเพียงหนึ่งเขตการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามพรรคก็ยังมีส.ส.กทม. อีก 11 คน บริบทของแต่ละเขตเลือกตั้งแตกต่างกัน และมั่นใจว่าการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า พรรคมีความสามารถเข้าไปอยู่ในใจของประชาชนได้อย่างแน่นอน

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร.

 

ส่วนกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคจะแตกก่อนมีการเลือกตั้งรอบหน้า นายไพบูลย์ กล่าวว่า ก็พูดกันมาตั้งแต่ตั้งพรรค หลังเลือกตั้งปี 2562 ก็พูดมาตลอด พอกันกับที่เรียกร้องให้ยุบสภา ที่พูดตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เรียกร้องมาตั้ง 3 ปีแล้ว สงสัยต้องเรียกร้องไปจนถึงปีที่ 4 ส่วนพรรคไม่มีอะไร เดินหน้าได้อยู่แล้ว อย่าคิดเยอะ พรรคการเมืองก็มีปฏิปักษ์อยู่แล้ว แม้กระทั่งคนที่เหมือนจะเป็นมิตร แต่ก็มีการแข่งขัน ดังนั้นต้องรอให้มีการเลือกตั้งครั้งต่อไป


ถามว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้นำฝ่ายค้านระบุว่า หากพรรคพปชร.ยังไม่มีการปรับเปลี่ยน พรรคฯจะมีส.ส.ต่ำกว่า50คน นายไพบูลย์ กล่าวว่า เขาก็พูดไป ซึ่งพรรคต้องมีการแข่งขันกัน ก็ต้องพูดจาให้ร้ายกับพรรคที่เป็นคู่แข่งที่มีความสามารถ เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง แต่พรรคของเราไม่ทำแบบนั้น


เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่า คะแนนนิยมในตัวนายกฯลดลง นายไพบูลย์ กล่าวว่า แค่ 1 เขตเลือกตั้ง จะนำมาตัดสินเขตที่เหลือทั้ง 399 เขตไม่ได้ ต้องดูเป็นเขตๆไป สมัยที่ พปชร.ชนะเลือกตั้งซ่อมที่ขอนแก่น เพื่อไทยไม่เห็นจะออกมาพูดเลยว่า ตัวเองจะล่มสลาย ดังนั้นการวิพากษ์วิจารณ์จึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามถึง ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.ที่พรรค พปชร. ได้คะแนนต่ำในเขตทหารและต่ำกว่าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายไพบูลย์ กล่าวว่า เขตนี้มีบริบทที่แตกต่างจากเขตอื่นมาก

 

กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าศัตรูของศัตรูคือมิตร นายไพบูลย์ กล่าวว่า อย่าคิดเยอะ เป็นการเมืองก็พูดกันไป ไม่มีสาระที่พรรคจะนำมาเป็นเรื่องภายในพรรค มีงานอีกมากที่จะต้องทำต่อ ต้องดูแลประชาชน ยืนยันไม่กระทบเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาล และสภาจะอยู่ไปอีกปีกว่า แต่ส่วนผู้ที่เรียกร้องให้ยุบสภา ตนเห็นใจ เพราะเรียกร้องตั้งแต่ปีแรก ห่วงว่าจะอึดอัดจนทนไม่ไหว ถ้าทนไม่ได้ก็ลาออกไป ไม่เป็นไร

 

ส่วนที่มีการร้องเรียนคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) มีมติส่งนายสิระ เจนจาคะ ลงส.ส.ตั้งแต่แรกทั้งที่ขาดคุณสมบัติ อาจถึงขั้นยุบพรรค นายไพบูลย์ กล่าวว่า ดูข้อกฎหมายแล้วไม่มีอะไรเกี่ยวพันธ์กับคณะ กก.บห. ที่จะนำไปสู่การยุบพรรค ตนจึงไม่หนักใจหรือห่วงอะไรทั้งสิ้น รวมถึงความผิดของหัวหน้าพรรคที่รับรอง ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ยังรับรอง แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าให้นายสิระพ้นจากส.ส. ก็ต้องเป็นไปตามนั้น