“สนธิญา”ให้ถ้อยคำ กกต. ยื่นยุบเพื่อไทย ปม”ทักษิณ”ครอบงำพรรค

07 ธ.ค. 2564 | 14:37 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ธ.ค. 2564 | 21:56 น.

“สนธิญา”ให้ปากคำกกต.ยื่นยุบพรรคเพื่อไทย กรณี “ทักษิณ” ครอบงำพรรค ชี้คุยผ่านวิดีโอคอลงานวันเกิด “เกรียง กัลป์ตินันท์”

วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันนี้ กกต.  เรียกตนมาให้ถ้อยคำจากกรณีที่ยื่นเรื่องร้องต่อ กกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอคอลงานเลี้ยงวันเกิดนายเกรียง กัลป์ตินันท์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตสมาชิกบ้านเลขที่111 โดยคุยกับ สมาชิกพรรคผ่านวิดีโอคอลซึ่งอาจขัดและฝ่าฝืนต่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28, 29 และมาตรา 74 (1) เข้าข่ายครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่


“ผมกล่าวหาพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกทักษิณ ว่ากระทำผิดต่อระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ โดยอดีตนายกทักษิณ ได้ชี้นำครอบงำ ทำจริงและทำให้เห็น ซึ่ง จากคำพูดดังกล่าวของท่านกับสมาชิกพรรคว่า ไม่ต้องห่วงที่มีคนลาออกจากพรรคฯแม้รับเงินแล้วต้องกลับมา พร้อมระบุการเปลี่ยนแปลงภายในพรรค ในระดับหัวหน้าพรรคคนใหม่ หลังจากนั้นการประชุมพรรคเพื่อไทยที่ จ.ขอนแก่น ในวันที่ 28  ต.ค.64  มีบุคคลสำคัญ คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเล็กของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ มารับตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย จากนั้นวันที่ 1 พ.ย. นางสาวแพทองธาร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่พรรคเพื่อไทยว่า ได้รับคำปรึกษาจากอดีตนายกทักษิณในฐานะบิดา ซึ่งถือว่า การกระทำของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นการชี้นำ ครอบงำ และกระทำการให้เห็นจริง เพราะบุคคลนั้นไม่ใช่บุคคลอื่น เป็นบุตรสาวของท่านเอง”


 

“สนธิญา”ให้ถ้อยคำ กกต. ยื่นยุบเพื่อไทย  ปม”ทักษิณ”ครอบงำพรรค

 

นายสนธิญา กล่าวว่า ส่วนความผิดมาตรา74 (1) เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องตรวจสอบพาสปอร์ตของอดีตนายกรัฐมนตรี ว่ายังถือสัญชาติไทยหรือไม่ หากไม่ใช่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามพรป.พรรคการ เมืองหรือไม่

นายสนธิญา กล่าวว่า สำหรับวันนี้ กกต. เรียกตนมาให้ถ้อยคำ ถือเป็นคำร้องที่ 4 ในการยื่นยุบพรรคเพื่อไทยและยังเหลืออีก 2 คำร้อง ทั้งนี้ทราบว่า ขณะนี้มีผู้ยื่นเรื่องต่อกกต.ให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทยถูกร้องให้ยุบพรรคประมาณ 10 คำร้อง หาก กกต. ตรวจสอบและมีความผิดจริงที่สามารถเชื่อมโยงให้เข้ากับมาตรา  92 ว่าด้วยการยุบพรรคการเมือง ซึ่งถ้า กกต. ต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ แม้เพียงครึ่งเดียวหรือแค่ 5 คำร้อง เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยมีหนาวแน่


อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่า ไม่ได้กลั่นแกล้งพรรคเพื่อไทยที่มาร้องให้ กกต. ยุบพรรค แต่เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการตรวจสอบตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หากพรรคเพื่อไทยมองว่า โดนกลั่นแกล้ง ก็สามารถนำข้อเท็จจริงมาดำเนินการเอาผิดกับตนได้

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้( 8 ธ.ค.) นายสนธิญา ต้องเข้าให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีร้องเรียนนายสุทิน คลังแสง อดีตประธานวิปฝ่ายค้าน ต่อกรณีผิดจริยธรรมร้ายแรงจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แจกเงิน ส.ส.คนละ 5 ล้านบาทและหลายเรื่องอันเป็นเท็จ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยกล่าวหาให้ได้รับความเสียหาย แต่ไม่ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีพลเอกประยุทธ์