สุวัจน์มองงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล "สร้างความสามัคคี-หาทางแก้ปัญหาชาติ"

12 พ.ย. 2564 | 18:03 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ย. 2564 | 01:10 น.

“สุวัจน์”มองงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล สาระคือการสร้างความสามัคคี และหาทางแก้ปัญหาของชาติ ย้ำเสถียรภาพของรัฐบาลมีความสำคัญ

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานทอดกฐินของเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นเจ้าภาพ ณ วัดป่าจิตตสามัคคี อ.เมือง จ.นครราชสีมา  โดยได้เงินร่วมทำบุญ เป็นยอด  923,350 บาท

 

นายสุวัจน์  ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานทอดกฐิน  ประเด็นการจัดงานเลี้ยงของรัฐบาลว่า ตนได้ข่าวมา แต่ยังไม่ได้รับแจ้ง หรือรับเชิญอย่างเป็นทางการ แต่ตนคิดว่าถ้ามีโอกาสที่จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลมาพบกัน ก็จะมีผลดีกับเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะเรื่องเสียงของสภามีความสำคัญเป็นอันมาก

“วันนี้รัฐบาลเหลือเวลาทำงานอีกปีกว่าๆ  ทุกวันเวลาของการทำงานของรัฐบาล มีคุณค่าและความหมายกับประชาชน ซึ่งเป็นการทำงานบนวิกฤติของประเทศที่พี่น้องในประเทศฝากความหวัง วิกฤติโควิด วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติน้ำท่วม เป็นวิกฤติที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และการเจริญเติบโตของประเทศ รัฐบาลต้องทำงานอย่างหนัก

 

แต่ถ้ารัฐบาลขาดเสถียรภาพ กลไกต่างๆ ก็ไม่สนับสนุนให้ไปสู่เป้าหมายได้  ซึ่งการทำงานในรัฐสภาเป็นการทำงานอีกอย่างที่ต้องดูแลด้วยนอกจากเรื่องบริหาร เพราะในสภาเป็นเรื่องของการผ่านกฎหมาย เป็นเรื่องการชี้แจง เรื่องญัตติ เรื่องกระทู้ เรื่องการตอบข้อคิดเห็นต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง หรือกลไกกฎหมายที่จะไปแก้ไขปัญหาต่างๆ ถ้าสภาไม่มีเสถียรภาพ หรือการประชุมสภายังมีปัญหาอยู่ ก็จะทำให้การบริหารทำงานไม่ราบรื่น ในวิกฤติบ้านเมืองที่เหลือ 1 ปี เสถียรภาพรัฐบาล มีความสำคัญ ที่จะทำให้รัฐบาลไปสู่เป้าหมาย ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติให้มากที่สุด” สุวัจน์ กล่าว

                                         สุวัจน์มองงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล \"สร้างความสามัคคี-หาทางแก้ปัญหาชาติ\"

 

ดังนั้น ในโอกาสที่พรรครัฐบาลจะได้พูดคุยกัน ตอนนี้มีความสำคัญมาก ซึ่งไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกัน หรือมีความไม่เข้าใจกัน การเจอกันในงานเลี้ยงต่างๆ ก็จะทำให้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจกัน  ซึ่งได้รับไอเดียที่ดีเพราะทุกคนก็ได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกผู้แทนราษฏร ทุกคนอยู่ที่พื้นที่และพบพี่น้องประชาชน ทำให้รู้ว่าพี่น้องประชาชนต้องการอะไร มีปัญหาอะไร หรือแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน  มาพูดคุยหรือมีการเสนอ หรือใครมีไอเดียดีๆ ที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ  ของรัฐบาลดีขึ้น ก็เป็นประโยชน์และก่อให้เกิดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นสิ่งที่ดี

 

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า การเมืองสมัยก่อนจะเจอกันบ่อยมาก เพราะเรามีพรรคร่วมหลายพรรค และเราก็จะมีประเพณีหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ เจอกันบ่อย ฉะนั้น เสถียรภาพในการเมืองรุ่นก่อนๆ จะมีความใกล้ชิดกันพอสมควร จะไม่ค่อยมีปัญหาฉะนั้น ถ้ามีการจัดและเชิญพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่กลุ่มการเมืองต่างๆ   มาพบปะพูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ว่าเราจะทำอะไรให้บ้านเมือง ประชาชนเดือดร้อนอะไร พวกเราจะมีความร่วมมือกันอย่างไร หรือการสร้างความเข้มแข็งให้กับรัฐบาล เพราะทุกวันของรัฐบาลมีคุณค่ากับประชาชนมาก