"กลุ่ม 4 กุมาร" ยังไม่จับมือ กับกลุ่มการเมืองใด

วันที่ 12 ตุลาคม   2564 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟสบุ๊คข้อความแสดงความเห็นทางการเมือง   เรื่อง “ความเป็นตัวของตัวเอง” และสิ่งที่ยึดมั่น  ระบุว่า

หลายท่านอาจได้เห็นได้ยินข่าวเกี่ยวกับกลุ่ม 4 กุมาร ซึ่งก็หมายถึงผมและเพื่อนๆ ว่า มีการพูดคุยจับมือกับกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม เพื่อจะทำงานด้านการเมือง ผมจึงขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อความชัดเจนของข่าวที่เกิดขึ้น

ทุกท่านคงจะจำได้ ตอนที่ผมลาออกจากคณะรัฐมนตรี ผมได้ปวารณาตัวว่า พร้อมทำประโยชน์ให้สังคมประเทศชาติต่อไป ไม่ว่าจะสวมหมวกใบไหน ส่วนเรื่องการเมืองเป็นเรื่องอนาคต

วันนี้เราทุกคน ต่างก็รับรู้ถึงพิษภัยจากการระบาดของไวรัส โควิด –19 ที่ส่งผลด้านลบอย่างรุนแรง ต่อสภาพสังคม และเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ที่สำคัญพิษภัยที่เกิดขึ้น จะสร้างบาดแผลทางเศรษฐกิจต่อไปอีกยาวนาน การที่จะฟื้นฟูประเทศให้กลับมาเข้มแข็ง ไม่ใช่เรื่องง่าย และจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย

ดังนั้นในสถานการณ์เช่นนี้ การเมืองจะมีบทบาทอย่างสูง ในการบริหารจัดการอุปสรรค แก้ไขปัญหาให้ตอบโจทย์ความเดือนร้อนของประชาชน เพื่อก้าวพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน รวมถึงการร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งการสร้างโอกาส การยกระดับคุณภาพชีวิต ให้กับคนไทยทุกภาคส่วน

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้มีกลุ่มการเมือง ผู้สนใจงานการเมือง มาพูดคุยกับผมและเพื่อนๆ เป็นระยะ ซึ่งผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เราจะได้แลกเปลี่ยนความคิด แนวทางที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์นโยบายที่จะตอบโจทย์ของประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ผมและเพื่อนๆ ยังไม่ได้ตกลงที่จะจับมือกับกลุ่มการเมืองใดๆ โดยสำหรับส่วนตัวผมนั้น หากเดินหน้าทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ จำเป็นต้องมีความเป็นตัวของตนเอง และที่สำคัญที่สุดคือ ผมจะทำเพื่อประโยชน์บ้านเมือง ด้วยความจริงจัง และตั้งมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายที่จะเดินหน้างานการเมืองภายใต้อุดมการณ์ที่สอดคล้องกัน

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้ปฏิเสธกระแสข่าวการดีลร่วมพรรคการเมืองกับกลุ่มการเมืองต่างๆ เช่นกัน โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการร่วมพรรคการเมือง หรือเตรียมพร้อมลงสนามการเมืองอีกครั้งอย่างที่มีกระแสข่าว จึงยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เพียงแต่มีโอกาสแลกเปลี่ยนมุมมองทางการเมืองกับกลุ่มการเมืองต่างๆ อยู่บ้างเท่านั้น

นายสนธิรัตน์  ยอมรับว่ามีความสนใจในการทำงานการเมือง เพราะเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้ขับเคลื่อนแนวคิดและนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน ส่วนในเรื่องตั้งพรรคการเมืองหรือการเข้าร่วมกับพรรคการเมืองใดนั้น เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ ก่อนตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งถ้าหากมีความชัดเจนแล้ว จะแจ้งให้ทราบให้ทราบอีกครั้ง