ปชป.เสนอชื่อ“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” มีคุณสมบัติเหมาะเป็นแคนดิเดตนายกฯ

03 ต.ค. 2564 | 13:50 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2564 | 21:11 น.

“องอาจ”ชี้ปชป.เสนอชื่อ“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์”หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค มีคุณสมบัติเหมาะ ทำงานได้

วันนี้(3 ต.ค.64) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอชื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถือเป็นเรื่องปกติของพรรคที่จะเสนอชื่อหัวหน้าพรรค คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคประชาธิปัตย์ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 ที่บัญญัติว่า

 

ในการเลือกตั้งทั่วไป ให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 รายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการสมัครรับเลือกตั้ง และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรายชื่อบุคคลดังกล่าวให้ประชาชนทราบ

 

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นบุคคลที่ผ่านการเลือกตั้งภายในพรรคตามกฎเกณฑ์กติกาที่โปร่งใส มีตัวแทนสมาชิกพรรคเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ตั้งพรรคขึ้นมาเองแล้วก็เลือกตัวเองขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค

นอกจากนั้นนายจุรินทร์ ก็เป็นนักการเมืองที่ผ่านงานทางการเมืองทั้งงานในสภาก็เป็นประธานวิป มีบทบาทในสภาอย่างเด่นชัด ส่วนงานฝ่ายบริหารก็ผ่านการเป็นรัฐมนตรีรับผิดชอบงานทั้งงานด้านเศรษฐกิจ สังคม มาหลายกระทรวง ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์สูงของพรรคคนหนึ่งจึงได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรคให้เป็นหัวหน้าพรรค

ในปัจจุบันทำงานด้านบริหารเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำงานประสบความสำเร็จตามนโยบายที่ประกาศไว้ ทั้งการประกันรายได้เกษตรกรและผลักดันการส่งออก ทำรายได้เข้าประเทศอย่างมากขณะนี้ ถึงแม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ไปทั่วโลกก็ตาม

ขณะเดียวกันการจัดกิจกรรม “จุรินทร์ ออนทัวร์”ทั่วประเทศ ก็ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างดี รวมถึงใน กทม. ที่ได้ลงพื้นที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนช่วงโควิดระบาดอย่างรุนแรง ก็มีเสียงตอบรับจากประชาชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

 

เพราะฉะนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อ นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ เพราะเป็นหัวหน้าพรรค และมีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสทำงานเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์บ้านเมืองต่อไป