ตำรวจพร้อมงัดพยานหลักฐานสู้คดี“ไฮโซลูกนัท”ฟ้องในศาลจากเหตุสลายม็อบ

20 ส.ค. 2564 | 12:54 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ส.ค. 2564 | 20:05 น.

โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลเผยตำรวจพร้อมนำพยานหลักฐานเข้าชี้แจงต่อศาล หากถูก “ไฮโซลูกนัท” ฟ้องร้อง จากเหตุสลายการชุมนุม

วันนี้(20 ส.ค.64) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนคบาล เปิดเผยภายหลังทราบว่าครอบครัวของ “ไฮโซลูกนัท” หรือ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ออกแถลงการณ์จะฟ้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่่ตำรวจทั้งทางอาญาและทางแพ่ง จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำการเกินกว่าเหตุในการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสลายการชุมนุมจนทำให้ “ไฮโซลูกนัท” บาดเจ็บ เบื้องต้นทางตำรวจยังไม่รับทราบข้อมูลดังกล่าว แต่ถ้าหากมีการฟ้องดำเนินคดี ตำรวจก็จะดำเนินการ นำพยานหลักฐานทั้งหมดที่ตำรวจมีนำไปชี้แจงต่อศาล

 

ส่วนกรณีเด็กอายุ 14 ปี ที่บาดเจ็บในพื้นที่ดินแดงนั้น ขณะนี้หลังจากการสอบปากคำพบว่า มีความคืบหน้าทางสำนวนแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ รวมถึงประเด็นกล้องวงจรปิดที่มีกระแสข่าวระบุว่าตำรวจมีหลักฐานนั้น ขอชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวอยู่ในสำนวนการสอบสวนจึงไม่สามารถเปิดเผยได้เช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก Nat Thanakitamnuay ของนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ "ไฮโซลูกนัท" ได้โพสต์ข้อความคำแถลงการณ์กรณีอาการบาดเจ็บของตัวเองโดยระบุตอนหนึ่งว่า  

นายธนัตถ์ ได้รับบาดเจ็บโดยมีบาดแผลฉีกขาดเป็นรูปครึ่งวงกลมที่บริเวณคิ้วขวา ลักษณะเกิดจากการถูกกระแทกด้วยวัตถุของแข็งไม่มีคม ลักษณะเป็นกระบอกกลม ซึ่งคณะแพทย์ผู้ตรวจรักษาได้ตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่า นายธนัตถ์ มีแผลบวมช้ำที่เบ้าตาขวาและมีบาดแผลฉีกขาดที่คิ้วขวา กระจกตาขวาฉีกขาด ลูกตาขวาแตก จอประสาทตาขวาลอก จากนั้นนายธนัตถ์ จึงได้เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บจากคณะแพทย์ด้วยการผ่าตัดแล้ว

 

ปัจจุบันมีอาการเบื้องต้นปลอดภัยและทรงตัว แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์เพิ่มเติมต่อเนื่องไปอีกเป็นเวลามากกว่า 6 เดือน โดยแพทย์มีความเห็นว่า ภายหลังการรักษาเสร็จสิ้นแล้ว ดวงตาข้างขวาของนายธนัตถ์ จะไม่สามารถมองเห็นได้อีก

 

ครอบครัวธนากิจอำนวยขอเรียนว่า นายธนัตถ์ได้เข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ได้บัญญัติรับรองเสรีภาพดังกล่าวไว้ 

อย่างไรก็ตาม ได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าในระหว่างการชุมนุมนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้เลือกใช้มาตรการในการสลายการชุมนุมหลายประการที่มีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตหรือร่างกายของผู้เข้าร่วมชุมนุม เช่น การยิงแก๊สน้ำตา หรือการยิงกระสุนยางเข้าใส่กลุ่มประชาชนผู้ชุมนุม ทั้งที่การชุมนุมดังกล่าวยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือสถานการณ์การใช้ความรุนแรงถึงระดับที่จะเป็นเหตุให้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการที่มีความรุนแรงในการสลายการชุมนุมดังกล่าว

นายธนัตถ์ และครอบครัว จึงเห็นว่าการใช้มาตรการสลายการชุมนุมดังกล่าว เป็นการใช้กําลังและเครื่องมือควบคุมฝูงชนที่เกินจําเป็น ไม่ได้สัดส่วนที่เหมาะสมและไม่สอดคล้องกับแนวทางสากลในการจัดการและควบคุมฝูงชน 

 

ด้วยเหตุนี้ นายธนัตถ์ฯ และครอบครัว จึงมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิในการดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งในคดีอาญา คดีแพ่ง และคดีอื่นใด กับบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อนายธนัตถ์ฯ เนื่องจากการใช้อำนาจหน้าที่ การปฏิบัติการ และการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวจนถึงที่สุดในทุกวิถีทาง