ห่วงล็อกดาวน์กทม.ไม่เข้าเป้า หลังม็อบชุมนุมไม่เลิก

12 ส.ค. 2564 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ส.ค. 2564 | 17:12 น.

“ธนกร”หวั่นล็อกดาวน์กทม.อาจไม่เข้าเป้า หลังม็อบยังชุมนุมไม่เลิก ชี้ยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจ-อาจทำโควิดแพร่ระบาด ลั่น”บิ๊กตู่”ทำเพื่อประชาชน ไม่หวั่นไทยสร้างไทยจ่อฟ้อง

 วันที่ 12 ส.ค. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลคุมเข้ม ซึ่งวันนี้ยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านเป็นตัวเลขที่เริ่มสูงกว่าจำนวนยอดผู้ติดเชื้อ จากการประเมินตัวเลขยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่วันละสองหมื่นกว่าคน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี สะท้อนความสำเร็จ และเป็นกำลังใจที่สำคัญของบุคลากรทางการแพทย์และทีมงานทุกคนที่ถือเป็นด่านหน้าในการรักษาพยาบาล แต่ตนรู้สึกเป็นห่วงในพื้นที่กทม.ว่า การประกาศล็อกดาวน์อาจจะไม่ได้ผลตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากมีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่างๆ เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจ และอาจจะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้

 

 ตนอยากเตือนน้องๆ เยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมว่า ขอให้คิดให้ดี มีสติ เพราะการชุมนุมไม่ได้สันติ มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผาทำลายทรัพย์สินราชการ สุดท้ายจะถูกดำเนินคดี ต้องติดคุก อย่าไปเชื่อพวกแกนนำเลย ลองคิดดูว่าคนเหล่านั้นเคยทำความดีอะไรให้ประเทศบ้าง คนเหล่านั้นเคยทำอะไรประสบความสำเร็จบ้าง บางคนยังไม่มีงานทำเลย แต่มีเงินหลายล้านบาทอยู่ในบัญชี มีการตั้งข้อสงสัยมากมายว่าแกนนเป็นประเภทสู้แล้วรวยหรือไม่ ตนอยากให้ผู้ชุมนุมที่บริสุทธิ์ได้คิดให้ดีอย่างมีเหตุมีผล หรือคุยกับผู้ปกครองก่อน
ห่วงล็อกดาวน์กทม.ไม่เข้าเป้า  หลังม็อบชุมนุมไม่เลิก

นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคไทยสร้างไทย จะยื่นฟ้องดำเนินคดีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ถือเป็นสิทธิตามกฎหมายที่สามารถกระทำได้ แต่ที่ผ่านมาเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลก็เร่งแก้ปัญหาทันที ทั้งการเร่งควบคุมและป้องกันโรค การนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ล้มเหลวในการบริหารจัดการวัคซีน ทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอน ขนาดส.ส.บางพรรคก็ยังรีบไปขอฉีดวัคซีนก่อนประชาชนด้วยซ้ำและน่าจะบริหารจัดการได้เร็วกว่านี้ด้วยซ้ำถ้าไม่ต้องมาคอยดูแลผู้ชุมนุมที่ออกมาชุมนุมกันในตอนนี้ตามคำปลุกปั่นของนักการเมืองบางคน จนสุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ได้ 

 

อย่างไรก็ตาม การที่นายกฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ก็เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งไม่ใช้การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ใช่ใช้เพื่อควบคุมม็อบอย่างที่นักการเมืองบางคนพยายามบิดเบือนด้วย เพราะถ้านำมาใช้อย่างเข้มงวดกับผู้ชุมนุมจริง สถานการณ์หลายอย่างคงไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้แน่นอน

ห่วงล็อกดาวน์กทม.ไม่เข้าเป้า  หลังม็อบชุมนุมไม่เลิก

"หากพรรคไทยสร้างไทยคิดที่จะโหนกระแสม็อบเพื่อเพิ่มคะแนนนิยมให้ตัวเอง ก็เปิดหน้าฟ้องรัฐบาลด้วยตัวเองได้เลย ไม่เห็นต้องเอาประชาชนมาบังหน้า อ้างว่าเป็นความเห็นของประชาชน ถ้าอยากจะเป็นข่าวก็ควรออกแรงทำเองบ้าง ไม่ใช่เกาะกระแสคนนู้นที คนนี้ที เพื่อแย่งพื้นที่สื่อให้ขายขี้หน้าเด็กเปล่าๆ "นายธนกรกล่าว