วันนี้ (11 มกราคม 2568) เวลา 09.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับน้อง ๆ ผู้พิการและน้อง ๆ ผู้ด้อยโอกาส ทั้งเด็กเก่งและมีความสามารถจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 10 คน ประกอบด้วย
1.เด็กชายภูผา มะเปลี่ยนสี 2.เด็กหญิงศันสนีย์ ดวงบุตร 3.เด็กชายธวัฒชัย นาคส่องแสง 4.เด็กชายนพดล ประชุม 5.เด็กหญิงฉัตรสุดา พุ่มดอกไม้ 6.นางสาวภัทรานิษฐ์ จัยวัฒน์ 7.นางสาวพิมพาพร กว้านสกุล 8.นายภากร ตีนทอง 9.เด็กหญิงนิธิศา สุขบินทรีย์ และ 10.เด็กชายนนทกร ท่านำ
ทั้งนี้น้อง ๆ ยังได้นั่งเก้าอี้ทำงานนายกรัฐมนตรี และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งบรรยากาศการนั่งเก้าอี้ทำงานของนายกรัฐมนตรีเป็นไปอย่างอบอุ่น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมเด็กเก่งเด็กมีความสามารถขอให้พัฒนาตัวเองต่อไป อย่าหยุดพัฒนา และให้กำลังใจว่า ขอให้เด็กและเยาวชนอย่าท้อแท้ มีกำลังใจในการดำรงชีวิต และดูแลตนเองให้เข้มแข็งมีกำลังใจในทุก ๆ ด้าน ยืนยันรัฐบาลมี นโยบายส่งเสริมให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ และอย่างเท่าเทียม
ส่วนบรรยากาศการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล วันนี้มีความคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยคณะจัดงานวันเด็กสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เปิดให้เด็กเข้านั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาส วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ซึ่งในปีนี้มีเด็กจำนวนมากให้ความสนใจมาต่อแถวเพื่อนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตั้งแต่เวลา 07.00 น.
โดยเด็กที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนแรกคือ ด.ช. พศุจน์ เปาอินทร์ (น้องพอร์ช) อายุ 3 ขวบ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับคุณพ่อ คุณแม่ และน้องชายชื่อเด็กชายพสุ เปาอินทร์ (น้องพอตเตอร์) อายุ 3 เดือน เดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรี
ทั้งนี้ น้องพอร์ช เคยเดินทางมาเที่ยวงานวันเด็กแล้ว เมื่อปี พ.ศ.2566 แต่ไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นคนแรก โดยปีนี้ครอบครัวน้องพอร์ช ตั้งใจที่จะพาน้องเข้าทำเนียบรัฐบาลและนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นคนแรก
สำหรับของขวัญที่น้องพอร์ชต้องการในวันเด็ก คุณแม่น้องกล่าวว่า น้องพอร์ช ชอบชุดทหาร และอยากได้ของขวัญเกี่ยวกับอาชีพทหาร เช่น ปืนของเล่น ทางด้านคุณพ่อกล่าวเสริมว่า ตั้งใจพาลูก ๆ ทั้ง 2 คน มาเยี่ยมชมงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล ต้องการให้ลูก ๆ พบกับนายกรัฐมนตรี รวมถึงได้สัมผัสบรรยากาศของทำเนียบรัฐบาล และได้เห็นกิจกรรมต่าง ๆ ภายในทำเนียบรัฐบาล
ภาพ : โสภน สุเสนา (Sopon Susena)