ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวก ฉ้อโกง-ฟอกเงิน เสียหาย 7,500 ล้าน

วันนี้ (23 พฤศจิกายน 2567) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. แถลงออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ กับพวกรวม 9 ตน หลังจากได้ดำเนินการขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ต้องหา กับพวก รวม 9 คน ซึ่งศาลอาญา ได้อนุมัติหมายจับ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 5645-5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.2567 แล้ว

สำหรับนายแพทย์บุญ นั้น ตำรวจได้ยื่นหลักฐานเพื่อดำเนินการในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นการปกปิดธุระสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่ไม่มีอยู่จริง และบังคับได้ตามกฎหมาย

ส่วนผู้ต้องหาส่วนที่เหลืออีก 8 คน ได้ยื่นคำร้องขอหมายจับในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ทั้งนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้มีผู้เสียหายทยอยมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ใน ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2567 จำนวน 247 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 7,500 ล้านบาท 

พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้เสียหายได้รับการติดต่อ ชักชวน จาก ตัวแทน บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่าตนเป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ และครอบครัว โดยแจ้งว่านำไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 5 โครงการ คือ 

1. โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ มูลค่าการลงทุน 4,000 ล้านบาท
2. โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่าการลงทุน 4,000 – 5,000 ล้านบาท
3. โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว 3 แห่ง
4. การเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม มูลค่าการลงทุน 4,000 – 5,000 ล้านบาท
5. การสร้าง MEDICAL INTELLIGENCE  ด้านไอที มูลค่าการลงทุน 100 ล้านบาท

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ในการชักชวนถ้าหากมีการร่วมลงทุนแล้ว ผู้ที่ร่วมลงทุนปี 66 จะได้กำไรประมาณ 700 ล้านบาท และปี 2567 จะได้กำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ.2566 นายแพทย์บุญฯ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยการออกสื่อ และบอกข่าวผ่านคนรอบตัว พนักงาน โบรกเกอร์ แจ้งระดมทุน โดยอ้างว่า ตนเองมีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ 

โดยได้มีการทำสัญญากู้ยืมเงิน โดยให้ผลตอบแทนสูงกว่าสถาบันการเงิน และจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ และดอกเบี้ย ในชื่อนายบุญ วนาสิน พร้อมทั้งมีบุคคลในครอบครัวเป็นผู้ค้ำประกันตามสัญญา และเซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกฉบับ มอบให้แก่ผู้เสียหาย ต่อมาเมื่อครบกำหนดชำระเงินตามเช็ค ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า โครงการต่าง ๆ ที่ผู้ต้องหานำเสนอผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ไม่มีอยู่จริง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” 

กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้มีการแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้น ซึ่งกรณีนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. เร่งรัดดำเนินการโดยด่วน เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายสูง

ต่อมา เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2567 คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ นายบุญ วนาสิน ผู้ต้องหา กับพวกรวม 9 คน และศาลอาญา ได้อนุมัติหมายจับตามหมายจับศาลอาญาที่ 5645-5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.2567 ตามลำดับ

ต่อมาในวันเดียวกัน (22 พ.ย.2567) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับนี้ได้จำนวน 6 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผล เพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการนี้เพิ่มเติม และเร่งติดตาม สืบค้น ยึด อายัดทรัพย์สินต่าง ๆ ของผู้ต้องหา เพื่อนำมาคืนสู่ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุดต่อไป

"ตอนนี้ได้ดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 9 คนตามหมายจับ โดยจับได้เมื่อวาน 6 ราย ส่วนหมอบุญ ตอนนี้เชื่อว่าอยุ่ในต่างประเทศ ส่วนภรรยาและลูกกำลังติดตามตัวอย่างเร่งด่วนต่อไป"