"สมศักดิ์" สั่งเร่งช่วยเหลือเยียวยาเหตุรถกระบะพุ่งชนรถพยาบาล

11 พ.ค. 2567 | 12:30 น.

"สมศักดิ์" สั่งติดตามช่วยเหลือเยียวยาเหตุรถกระบะพุ่งชนรถพยาบาล ส่งตัวแทนลงพื้นที่เร่งเยียวยาจิตใจผู้ประสบเหตุและครอบครัวพร้อมเร่งสอบสวนสาเหตุเพื่อกำหนดมาตราการป้องกัน

11 พฤษภาคม 2567 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า จากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถกระบะชนรถพยาบาลโรงพยาบาลพร้าว บริเวณถนนทางหลวง หมายเลข 1001 เส้นเชียงใหม่-พร้าว บ้านหลวง หมู่ 6 ต.หล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย (รวมทารกในครรภ์) และมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 6 ราย รวมทั้งหมดเป็น 11 ราย

ล่าสุดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มีความห่วงใยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมากกำชับให้ดูแลผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ได้สั่งการไปยังนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมอบหมายให้ ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 1 ลงพื้นที่ดูแลเยียวยาให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บพร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

โดยทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) เข้าประเมินภาวะจิตใจของผู้ประสบเหตุและครอบครัว พร้อมลงสอบสวนโรคแบบทีมสหวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และเครือข่ายสหวิชาชีพในพื้นที่ เร่งสอบสวนเหตุการณ์เพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติมและหาข้อสรุปเพื่อกำหนดมาตราการในการป้องกันต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ความห่วงใยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากเพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะที่รถพยาบาลกำลังรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉินและมีเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก โดย ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 รายงานว่า เนื่องจากพื้นที่ภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นภูเขาคดเคี้ยว การเดินทางค่อนข้างลำบาก ประจวบกับเข้าฤดูฝน มีฝนตกหนักในบางพื้นที่

มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้ง ทางเขตสุขภาพที่ 1 จะเร่งดำเนินการจัดประชุม อบรมวางมาตรการและแนวทางการใช้รถ โดยเฉพาะรถรีเฟอร์ในการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล ให้เกิดความระมัดระวังในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ให้เร็วที่สุด