"ชัชชาติ" สั่ง 50 เขตสำรวจโรงงาน 639 แห่งทั่วกทม. หลังพบ "กากแคดเมียม" บางซื่อ

11 เม.ย. 2567 | 14:50 น.
อัปเดตล่าสุด :11 เม.ย. 2567 | 14:50 น.

"ชัชชาติ" สั่ง 50 เขตสำรวจโรงงาน 639 แห่งทั่วกทม. หลังพบ "กากแคดเมียม" บางซื่อ คาดน่าจะใช้เวลา 2-3 วัน ระบุขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล ไม่มีอันตรายกับคนรอบข้าง เผยจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะเร่งเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพบกากแคดเมียมที่โรงงานของ บริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด เขตบางซื่อ 

โดยก่อนหน้านี้มีการหารือกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ดูแล้วมีโอกาสเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงมีการสั่งการให้ตรวจสอบโรงหลอม 98 แห่ง โรงเคลือบ 154 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. 67

ทั้งนี้ ได้รับการรายงานว่าสารแคดเมียมที่ตรวจพบ มีที่มาจากโรงงานใน จ.สมุทรสาครที่ได้มีการตรวจพบไปก่อนหน้านี้ ในลักษณะของการฝากเก็บโรงงานแห่งนี้พบกากแคดเมียม จำนวน 98 ถุง น้ำหนักประมาณ 150 ตัน 
 

ซึ่งยังไม่ได้มีผลกระทบอันตรายรอบข้าง ไม่มีการแพร่กระจายทางอากาศ เพราะได้นำเครื่องมือไปตรวจ เก็บตัวอย่างแหล่งน้ำ เก็บดิน โดยยังไม่พบการปนเปื้อนสารแคดเมียม ไม่ใช่สารกัมมันตภาพรังสี 

"ชัชชาติ" สั่ง 50 เขตสำรวจโรงงาน 639 แห่งทั่วกทม. หลังพบ "กากแคดเมียม" บางซื่อ

ผอ.เขต เขตจึงประกาศพื้นที่อันตรายเฉพาะพื้นที่โรงงาน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 รวมถึงได้มีการไปแจ้งความเอาผิดในข้อหาเก็บวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตามหากมีการสัมผัสแคดเมียมเป็นเวลานาน ก็จะเกิดอันตรายได้

"ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล ไม่ได้มีอันตรายกับคนรอบข้าง จากนี้ก็ได้สั่งการทุกเขตสำรวจโรงงานในลักษณะเดียวกัน โรงงานรีไซเคิล จำนวน 639 แห่ง ซึ่งน่าจะใช้เวลา 2-3 วัน หากประชาชนพบถุงบิ๊กแบ็กสีขาว มีตัวอักษร P เบอร์โทรศัพท์ วันที่ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน อย่าไปสัมผัส"
 

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า การดำเนินการหลังจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม จะเร่งดำเนินการหาวิธีเคลื่อนย้ายสารแคดเมียมพี่พบออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัยต่อไป ในขณะนี้ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักเทศกิจ และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าประจำการในพื้นที่แล้ว 

ส่วนเรื่องการตรวจผู้สัมผัส ใกล้ชิด กับสารแคดเมียม หรือผู้มีความเสี่ยงสูง โดยร่วมกับกรมควบคุมโรค และ กรมควบคุมมลพิษ ได้ร่วมกำหนดแนวทาง แยกแยะผู้มีความเสี่ยงเป็นระดับ และในขั้นต้น จะมีการต้นคนงาน ผู้สัมผัสโดยตรง ประมาณ 20 คน