"ดีอี-ETDA"สร้างภูมิคนไทยรู้ทันปัญหาออนไลน์-สร้างแกนนำในพื้นที่

14 ก.พ. 2567 | 17:15 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.พ. 2567 | 17:15 น.

"ดีอี-ETDA"สร้างภูมิคนไทยรู้ทันปัญหาออนไลน์-สร้างแกนนำในพื้นที่ เดินหน้ายกระดับทักษะของบุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชน มุ่งให้คนไทยมีความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางออนไลน์อย่างปลอดภัย

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA เพื่อขยายขีดความสามารถในการรับมือภัยออนไลน์

ทั้งนี้ จะเป็นการดำเนินการผ่านโครงการสร้างภูมิคนไทยรู้ทันปัญหาออนไลน์ (1212 ETDA) “รู้ทันเกมโกง หยุดกลคนลวง” เพื่อยกระดับทักษะของบุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชน และสร้างแกนนำเครือข่ายผู้บริโภคในชุมชน มุ่งให้คนไทยมีความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางออนไลน์อย่างปลอดภัย

ด้วยสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่ล้ำหน้ามากขึ้นในทุกวัน ส่งผลให้การทำกิจกรรมทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนได้ปรับสู่การทำผ่านออนไลน์มากขึ้น อย่างเช่นภาครัฐเองได้มีการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบเพื่อการให้บริการประชาชน โดยการเสริมศักยภาพจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยในการดำเนินงาน

อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลฯ ได้มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ครอบคลุมการใช้งานในทุกภาคส่วน มีความปลอดภัย และได้มาตรฐานในระดับสากล ยกระดับการทำงานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันการใช้ระบบคลาวด์ (Cloud) มีการส่งเสริมผู้ประกอบการและดึงดูดให้เกิดการลงทุน การส่งเสริมการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี AI รวมถึงการพัฒนากำลังคนดิจิทัล 

"ดีอี-ETDA"สร้างภูมิคนไทยรู้ทันปัญหาออนไลน์-สร้างแกนนำในพื้นที่

"สิ่งสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้ คือ การรับมือกับภัยออนไลน์ที่เกิดขึ้น ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ดำเนินการในเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาภัยออนไลน์ตลอดมา ผ่านแนวทางที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การตรวจและป้องปรามการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล การใช้แอปพลิเคชันแจ้งเตือนหมายเลขโทรศัพท์เสี่ยงภัยออนไลน์ การแก้ปัญหาซื้อของออนไลน์แล้วได้ของไม่ตรงปก โดยการมีมาตรฐานบริการเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery: COD) หรือการนำเทคโนโลยี AI มาใช้วิเคราะห์ และประมวลผลเพื่อสนับสนุนการรับมือกับปัญหาทางออนไลน์ รวมถึงสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือ การให้ความรู้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ให้แก่ประชาชนที่จะต้องลงไปถึงระดับชุมชน"

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า จากสถิติการรับแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทาง 1212 ETDA ได้พบปัญหาที่ส่งผลต่อประชาชนเกือบทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นปัญหา Cyberbullying การแชร์ข้อมูลส่วนบุคคล การถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปกระทำความผิด รวมถึงการถูกหลอกลวงทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ทำให้กระทรวงดิจิทัลฯ และ ETDA จึงต้องเร่งทำงานเชิงรุกมากยิ่งขึ้น 
 

นายมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา 1212 ETDA ได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวนถึง 60,178 เรื่อง และมีการแก้ไขปัญหาแล้ว 96% โดยปัญหาที่พบมากที่สุด คือ ปัญหาการซื้อขายทางออนไลน์ รองลงมา คือ ปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมาย

การดำเนินงานของ 1212 ETDA จึงได้ยกระดับการดำเนินงานจากการเป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียน การประสานติดตามการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง สู่การเป็นช่องทางกลางในการรับเรื่องร้องเรียนจากการให้บริการของแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงขยายการทำงานร่วมกับเครือข่ายเกือบ 20 หน่วยงาน เพื่อการจัดการปัญหาให้ครอบคลุมได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ เพื่อถ่ายทอดความรู้ และสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนในชุมชน รวมถึงในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 4,880 คน จาก 22 จังหวัด

"เพื่อให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่องในปี 67 จึงขยายเพิ่มอีก 10 จังหวัด กับโครงการสร้างภูมิคนไทยรู้ทันปัญหาออนไลน์ รู้ทันเกมโกง หยุดกลคนลวง โดยเริ่มตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป ซึ่งกิจกรรมจะมีทั้ง การจัดบูทนิทรรศการจากหน่วยงานความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง และการจัดเวทีเสวนา เพื่อแชร์ความรู้และกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริง"