ปลัด มท. แสดงมุทิตาจิตข้าราชการมหาดไทยที่เกษียณอายุราชการ 1 ต.ค. 2566

30 ก.ย. 2566 | 12:20 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ย. 2566 | 12:26 น.

ปลัด มท. แสดงมุทิตาจิตข้าราชการมหาดไทยที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 เน้นย้ำร่วมระลึกคุณค่าการทำงานที่ผ่านมา แม้เกษียณอายุแล้ว แต่ต้องไม่เกษียณจากการทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองตลอดไป

วันนี้ (30 ก.ย. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย(ปลัด มท.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 นี้ จะมีข้าราชการกระทรวงมหาดไทยผู้มีอายุครบ 60 ปี ต้องเกษียณอายุราชการ จึงขอร่วมแสดงมุทิตาจิตแด่ข้าราชการผู้เกษียณอายุราชการทุกท่าน 

โดยสิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันอย่างเท่าเทียม คือ “เวลา” ไม่ว่าเราจะอยู่ในตำแหน่ง หรือแห่งหนใด ในช่วงเวลาของการเดินทางที่ผ่านมา เราโชคดีที่ได้เดินทางร่วมกันมาบนเวลาที่มีความหมาย ได้พบความสุข ความสนุก เรื่องราวดีดี และประสบการณ์ที่ท้าทาย จนถึงเวลาสุดท้ายของการที่ได้เจอกันในชีวิตการทำงาน

“เมื่อเวียนย่างเข้าสู่เดือนกันยายนของทุกปี เราทุกคนต่างรู้ดีว่า นั่นคือ วาระแห่งการเกษียณอายุราชการที่เวียนมาบรรจบ ช่วงชีวิตที่ผ่านมาในเส้นทางการทำงานของทุกท่าน กระผมได้พบว่า ทุกท่านล้วนแล้วแต่เป็นทรัพยากรบุคคลอันทรงคุณค่าของกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ซึ่งทุ่มเทกำลังกายและใจเสมอ ใช้ศักยภาพและความสามารถในการพัฒนาองค์กร สังคม และประเทศชาติ” 

นายสุทธิพงษ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณใน “คุณความดี” และทุกสิ่งที่ข้าราชการผู้เกษียณอายุราชการทุกท่านได้เสียสละมาโดยตลอด ขอให้ท่านจงภาคภูมิใจและจงเชื่อมั่นว่าคุณงามความดีที่ท่านได้เคยปฏิบัตินั้น จะเป็นที่ระลึกถึงแก่คนรุ่นหลังอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านถือเอาวาระแห่งการเกษียณอายุราชการนี้ เป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ดังที่ปรารถนาไว้ และขอให้ใช้ชีวิตต่อไปจากนี้อย่างมีความสุขและมีคุณค่าต่อไป แม้ทุกท่านจะเกษียณอายุราชการ แต่ขอฝากให้ทุกท่านต้องไม่เกษียณจากการทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองตลอดไป

“...ตราพระราชสีห์ สัญลักษณ์ อนรรฆค่า เป็นที่มาในเส้นทางของศักดิ์ศรี อุดมการณ์ สร้างสังคม แห่งความดี
พัฒนาทุกพื้นที่ประเทศไทย

ด้วยพันธะ หน้าที่ เกียรติยศ                  
ถึงกำหนด ครบวาระ  อันยิ่งใหญ่ ครบเกษียณ อายุ กำหนดไว้  ถึงอย่างไร เราคือคน มหาดไทยดังเช่นเดิม

เพราะราชสีห์ ผู้ภักดี ต่อแผ่นดิน เกษียณเพียง อายุ ราชการ แต่จะไม่ เกษียณ จากการงานที่ทำคุณ ประโยชน์ ต่อส่วนรวม...”

ด้วยจิตคารวะ...แด่ ผู้เกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ทุกท่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวัน21 มิถุนายน 2566 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้ลงนามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ข้าราชการพ้นจากราชการเพราะอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ (ครบเกษียณอายุ) ในสิ้นปีงบประมาณ 2566 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีข้าราชการพลเรือนสามัญที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และจะต้องพ้นจากราชการ (ครบเกษียณอายุ) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

ในจำนวนนี้ เป็นผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย 24 คน และตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (ระดับ 10 เดิม) ประเภทบริหารระดับต้น (ระดับ 9 เดิม) อำนวยการระดับสูง (ระดับ 9 เดิม) และระดับเชี่ยวชาญ (ระดับ 9 เดิม) ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และ 6 กรม ได้แก่ กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน กรมที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวมจำนวน 227 คน 

สำหรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยที่จะเกษียณอายุราชการ ได้แก่ อธิบดี 2 กรม 

  • นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง
  • นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 

ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัด

  1. นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
  2. นายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ
  3. นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์
  4. นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
  5. ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา
  6. นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
  7. นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร
  8.  นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี
  9. นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง
  10. นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
  11. นายวิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร
  12. นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์
  13. นายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ
  14. นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี
  15. นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
  16. นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
  17. นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา 

ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 5 ตำแหน่ง 

  • นายคมสัน เจริญอาจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
  • นายปรีชา เดชพันธุ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
  • นายปรีชา ทองคำ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
  • นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
  • นางสาวสิริมา วัฒโน ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 

ตำแหน่งระดับทรงคุณวุฒิ 1 ตำแหน่ง 

  • นายวราพงษ์ เกียรตินิยมรุ่ง นายช่างใหญ่ (ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสำรวจ) กรมที่ดิน

รองอธิบดี 1 ตำแหน่ง 

  • นายอนวัช สุวรรณเดช รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง

รองผู้ว่าราชการจังหวัด 44 ตำแหน่ง อาทิ 

  • นายเจนเจตน์ เจนนาวิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
  • นายดนัย สุนันทารอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
  • นายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
  • นางพรเพชร เขมวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์
  • นายกองเอกพุทธ กฤชคงพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
  • นางภัทราวดี สุทธิธนกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
  • นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
  • นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
  • นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
  • นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
  • นายอาวุธ วิเชียรฉาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
  • นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
  • นายสุรศิษฐ์ อินทกรอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ
  • นายบุญชัย สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง
  • นายชนพหล ส่งเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ
  • นายสรสาสน์ สีเพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น