รู้จัก“พลายศักดิ์สุรินทร์”อีกครั้งหลังเหยียบแผ่นดินแม่

03 ก.ค. 2566 | 00:30 น.
1.2 k

 ทำความรู้จักกับ“พลายศักดิ์สุรินทร์”อีกครั้ง หลังเหยียบแผ่นดินแม่ในรอบ22ปี และความเชื่อของ“งาอุ้มบาตร” ของชาวศรีลังกา

 กว่า17ชั่วโมงสำหรับการเดินทางที่ยาวนานของ“ช้างไทย" "พลายศักดิ์สุรินทร์” ทูตสันถวไมตรี กลับมาสู่อ้อมกอดประเทศไทยที่ไปอยู่ที่ประเทศศรีลังกา22ปี  “พลายศักดิ์สุรินทร์”ถือว่าเป็นช้างไทยเชือกที่ 3 ถูกส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีที่ประเทศศรีลังกาเมื่อปี พ.ศ.2544 เพื่อนำไปฝึกใช้ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในงานแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของศรีลังกา

รู้จัก“พลายศักดิ์สุรินทร์”อีกครั้งหลังเหยียบแผ่นดินแม่

ความโดดเด่นของ “พลายศักดิ์สุริทร์”คือ “งาอุ้มบาตร” ที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของพลายศักดิ์สุรินทร์ ตามความเชื่อของชาวศรีลังกาเชื่อว่า “ช้างงาอุ้มบาตร” คือช้างที่มีลักษณะงาขนาดยาวและโค้งเหมือนแขนพระที่อุ้มบาตร ตามความโบราณเชื่อของชาวศรีลังกา เชื่อกันว่าช้างที่มีลักษณะงาแบบนี้เหมาะกับการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระเขี้ยวแก้ว

รู้จัก“พลายศักดิ์สุรินทร์”อีกครั้งหลังเหยียบแผ่นดินแม่

ด้วยความที่ “พลายศักดิ์สุริทร์” มีงายาวถึง 50 ซม. ทั้งสองข้าง ถือเป็นช้างที่มีงายาวที่สุดในศรีลังกา เนื่องจากช้างในศรีลังกาส่วนใหญ่จะมีงาสั้น ทำให้หาช้างที่มีลักษณะงาอุ้มบาตรอย่าง "พลายศักดิ์สุรินทร์"ได้ยาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้"พลายศักดิ์สุรินทร์"ถูกใช้งานอย่างหนักด้วยการเดินในขบวนแห่กว่าเดือนละ 30 ครั้ง จนขาซ้ายด้านหน้างอเข่าไม่ได้ และมีฝีขนาดใหญ่ด้านหลังทั้งสองแห่ง ทำให้มีปัญหาด้านสุขภาพมานานกว่า 10 ปี และไม่มีการรักษาอย่างเหมาะสม

รู้จัก“พลายศักดิ์สุรินทร์”อีกครั้งหลังเหยียบแผ่นดินแม่

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการช่วยเหลือพลายศักดิ์สุรินทร์ โดยมีการประสานกับทางวัดที่ดูแล ด้วยการนำออกมาพักรักษาไว้ที่สวนสัตว์ในกรุงโคลัมโบ ก่อนที่จะมีการประสานนำเครื่องบินมารับกลับสู่อ้อมกอดของแผ่นดินไทย และได้มาพักฟื้นร่างกายหลังถูกใช้งานมาอย่างหนักหน่วงเกือบ 22 ปี

รู้จัก“พลายศักดิ์สุรินทร์”อีกครั้งหลังเหยียบแผ่นดินแม่

ล่าสุด "พลายช้างศักดิ์สุรินทร์”ได้เหยียบแผ่นดินแม่ โดยเดินทางสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จ.ลำปาง เพื่อรักษาอาการป่วยและฟื้นฟูสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม แต่ในช่วงนี้ทางสถาบันคชบาลฯจะยังไม่เปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชม พลายศักดิ์สุริทร์”เพื่อจากต้องห้ช้างได้พักผ่อนภายหลังจากการเดินทางและได้ใช้เวลาเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ตลอดจนได้มีโอกาสได้สร้างความคุ้นเคยกับควาญช้างไทย ภาษาไทย และได้ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมที่จากไปนานนับสิบปี ซึ่ง “ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์”

รู้จัก“พลายศักดิ์สุรินทร์”อีกครั้งหลังเหยียบแผ่นดินแม่

รู้จัก“พลายศักดิ์สุรินทร์”อีกครั้งหลังเหยียบแผ่นดินแม่

รู้จัก“พลายศักดิ์สุรินทร์”อีกครั้งหลังเหยียบแผ่นดินแม่

จะใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังและสังเกตอาการ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน ภายใต้ระเบียบการควบคุมโรคระบาดสัตว์ กรมปศุสัตว์ เพื่อป้องกันโรคติดต่อบางชนิด แต่สามารถติดตามการเดินทางของพลายศักดิ์สุรินทร์ ได้ที่อาคารกัลยาณิวัฒนาการุณย์ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง หรือการไลฟ์ผ่านทางแฟนเพจ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang (https://www.facebook.com/elephantcenter/) และจัดทำคลิปวิดีโอ เพื่อนำเสนอเรื่องราวการดูแลรักษาพลายศักดิ์สุรินทร์ตลอดระยะเวลา 30 วันนี้