นายกเทศมนตรีปาดังเบซาร์ซัดตม.เล่นกลค่าล่วงเวลาผ่านด่าน

12 ม.ค. 2566 | 12:41 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ม.ค. 2566 | 19:52 น.

นายกเทศมนตรีปาดังเบซาร์ฟ้องกมธ.ปกครอง แฉกลเม็ดด่านตม. อ้างคนไม่พอบีบให้ต้องทำบัตรผ่านช่วงนอกเวลา เพื่อเรียกเก็บค่าล่วงเวลา ตม.ยันทำตามที่กฎกระทรวงกำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 8 ม.ค.2566 ที่อาคารศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ เทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา  คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายเดชอิศม์ ขาวทอง   รองประธานกรรมาธิการการปกครอง คนที่ 5 พร้อมกรรมาธิการ อาทิ  นางสาวสุภาพร กำเนิดผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา เขต 6 นายอดุลย์ สงดวง เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการปกครอง เดินทางศึกษาดูงานและรับฟังบรรยายสรุป “บทบาทและภารกิจของเทศบางเมืองปาดังเบซาร์ ในการพัฒนาท้องถิ่นตามแผนยุทธศาสตร์” 

 

นายอรรถพล พร้อมมูล นายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ รายงานว่า ต้องการให้กมธ.ปกครองฯ ช่วยนำเสนอปัญหา การให้บริการของเจ้าหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมือง  ในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวมาเลเซีย และคนไทยที่เดินทางเข้าออกชายแดน เพื่อไปทำมาค้าขายในประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีประมาณวันละ 500-600 คน ในกรณีใช้พาหนะเดินทางข้ามแดน จะประสบปัญหา ถูกเรียกเก็บค่าล่วงเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ครั้งละ 25 บาทต่อคน 

นายกเทศมนตรีปาดังเบซาร์ซัดตม.เล่นกลค่าล่วงเวลาผ่านด่าน

นายกเทศมนตรีปาดังเบซาร์ซัดตม.เล่นกลค่าล่วงเวลาผ่านด่าน

“บางคนเข้าออกวันละหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งต้องเสียค่าล่วงเวลาการทำงาน (นอกเวลาทำการ)  เนื่องจากในช่วงเวลาปกติใช้เวลานาน ทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่มีบุคลากรเพียงพอ จึงเปิดให้บริการได้จำกัด”

 

จากการประมวงข้อมูลพบว่า ในช่วงเวลาทำการปกติ เจ้าหน้าที่ตม.จะเปิดให้บริการแค่ 1 ช่องเท่านั้น แต่พอถึงช่วงเวลานอกเหนือจากเวลาทำการ เช่น ก่อนหรือหลังเวลาทำการและช่วงพักเที่ยง  กลับสามารถเปิดให้บริการได้หลาย ๆ ช่องได้"

นายกเทศมนตรีปาดังเบซาร์ซัดตม.เล่นกลค่าล่วงเวลาผ่านด่าน

นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตม.อ้างว่าเป็นระเบียบที่ต้องปฎิบัติตาม โดยออกใบเสร็จรับเงินให้ แต่ในทางปฎิบัติไม่ใช่ทุกคนที่รับใบเสร็จ หลายคนเร่งรีบไม่อยู่รอรับใบเสร็จรับเงินจากเจ้าหน้าที่     จึงอยากเรียกร้องผ่านกมธ.ปกครอง คือ 1.ให้มีการจัดเก็บครั้งเดียวในการเข้าออกแต่ละวัน  หรือ 2.ให้จัดเก็บครั้งเดียวตามอายุของหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (30วัน) หรือ 3.ให้ยกเลิกการจัดเก็บค่าล่วงเวลาไปเลย เพราะที่อื่น ภาคอื่น หรือด่านควนโดน จ.สตูล ก็ไม่มีการเก็บ

 

“ผมเป็นผู้บริหารเมืองพยายามใช้หลักการประสานและการพูดคุยกัน เพราะตม.คือหัวใจสำคัญในการอำนวยความสะดวก การเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ แต่เนื่องจากเราไม่มีโอกาสที่จะประสานเลย เพราะว่า ตม.ปาดังเบซาร์ ขึ้งอยู่กับ ผกก.ตม.สงขลา ที่มีอำนาจเด็ดขาด และส่งสารวัตรสับเปลี่ยนหมุนเเวียนคนเข้ามาทำหน้าที่ดูแล โดยเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในพื้นที่อาจจะไม่เต็มร้อย"

 

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า เทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ไม่เป็นศัตรูกับใคร เราพยายามขอร้อง ขอความเห็นใจ ขอความอนุเคราะห์ อย่าให้ประชาชนต้องเดือดร้อนจากสิ่งเหล่านี้ ที่สำคัญนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามา นำเงินตรามาจับจ่ายใช้สอยในบ้านเรา ควรต้องอำนวยความสะดวกให้เขา กับด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ มีปัญหาอะไรเราพูดคุยสื่อสารกันได้ แต่กับตม.ค่อนข้างโดดเดี่ยว 

 

“แต่มีสิ่งหนึ่งที่ท่านจะต้องรู้นะครับ ว่าที่ ๆ ท่านอยู่เป็นที่ของเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ โดยด่านศุลกากรปาดังเบซาร์เช่าจากเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ แล้วจัดให้ตม.ก็อยู่ตรงนั้น"

 

ขณะที่ตัวแทนตม.สงขลา กล่าวว่า ในแง่ของหน่วยงาน ตม.และก็หน่วยงานชายแดนทั้งหมด การทำงานของเรามีความประสงค์ที่จะเอื้อพี่น้องในพื้นที่ หรือที่ทำมาค้าขายชายแดน ให้เกิดความสะดวก หรือให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพียงแต่ว่าเราจะมีกฎกระทรวง กฎระเบียบ ซึ่งกำหนดว่าให้เราต้องกระทำการใด ๆ ตามระเบียบ

 

“เรื่องของการเข้าออกเป็นประเทศไปตาม พรบ.คนเข้าเมือง มาตรา 11 กับมาตราที่ 18 ที่ว่าบุคคลใดจะเข้าหรือออกราชอาณาจักร จะต้องผ่านช่องทางด่าตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะต้องได้รับการตรวจจากเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง”

 

ส่วนเรื่องค่าล่วงเวลา ก็ออกตามกฎกระทรวงของมหาดไทย ซึ่งออกตามพ.ร.บ.นี้ โดยการกำหนดว่าค่าล่วงเวลา เราจะเรียกเก็บจากบุคลที่นำมาพาหนะเข้าออกและผู้โดยสาi โดยจะเรียกเก็บจากเวลาที่ไม่ใช่เวลาราชการ เช่น วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันนักขัตฤกษ์ หรือก่อนเวลาทำการ คือช่วงก่อน 08.00 น. และช่วงเที่ยงถึงบ่ายโมง และหลังจากเวลา 16.30 น.

 

“เป็นระเบียบของกฎกระทรวง ที่ออกมาตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง จึงขอชี้แจง ซึ่งถามว่าเราเรียกเก็บจากคนประจำพาหนะและผู้โดยสาร แต่สำหรับชาวบ้านเดินเท้าทั่วไปเราไม่ได้เรียกเก็บ”