ตลาดรถยนต์ปี 2568 ฟื้นตัวช้า อีวี ปิกอัพ ระดมเปิดตัวรุ่นใหม่

30 ธ.ค. 2567 | 09:28 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ธ.ค. 2567 | 09:29 น.

ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2568 มีโอกาสฟื้นตัวเล็กน้อย คาดว่ายอดขายรวมจะขยับถึง 6 แสนคัน โดยมีรถใหม่เปิดตัวเพียบ โตโยต้า ส่งยาริส เอทีฟ ไฮบริด และปิกอัพไฮลักซ์ โมเดลเชนจ์ ส่วนอีวี จีนจ่อเข้ามาสมทบอีก 2-3 แบรนด์

ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2567 ยอดขายต่ำสุดในรอบ 15 ปี คาดว่าจะปิดตัวเลขไม่ถึง 6 แสนคัน (ยอดขาย 11 เดือน ม.ค.-พ.ย.67 ประมาณ 5.18 แสนคัน ลดลง 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว)

 

สถานการณ์การขายหดตัวทั้งเก๋ง และปิกอัพ ที่ลดลงไป 20% และ 40% ตามลำดับ สอดคล้องกับยอดผลิตและการส่งออก โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปรับเป้าผลิตรถยนต์เหลือ 1,500,000 คัน (ปรับเป็นครั้งที่สอง จาก 1.9 ล้านคัน เหลือ 1.7 ล้านคัน และล่าสุด 1.5 ล้านคัน) ลดลงกว่า 300,000 คัน เมื่อเทียบกับปี 2566 ในจำนวนนี้แบ่งเป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศ 450,000 คัน และผลิตเพื่อส่งออก 1,050,000 คัน

ตลาดรถยนต์ปี 2568 ฟื้นตัวช้า อีวี ปิกอัพ ระดมเปิดตัวรุ่นใหม่

สำหรับตลาดรถยนต์ปี 2568 หลายภาคส่วนยังมองว่า สถานการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ยังทรงตัว หรือดีขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนยังสูง (90% ของ GDP) แต่เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง มาตรการบริหารจัดการหนี้เสียของภาครัฐ รวมถึง GDP ที่น่าจะเติบโตระดับ 3-4%

 

จากศักยภาพการจับจ่ายใช้สอยที่มีจำกัด และสถาบันการเงินยังคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ตลาดรถยนต์ไทยปี 2568 น่าจะทรงตัวหรือดีขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ประมาณกว่า 6 แสนคัน ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV ประมาณ 9 หมื่นคัน

 

ส่วนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ปี 2568 มีความน่าสนใจหลายรุ่น โดยเฉพาะพี่ใหญ่โตโยต้า ที่ประเดิมต้นปีด้วยอีโคคาร์ไฮบริด โตโยต้า ยาริส เอทีฟ จากนั้นครึ่งปีหลังมีปิกอัพไฮลักซ์ โมเดลเชนจ์  ส่วนค่ายญี่ปุ่นอื่นๆ เช่น ฮอนด้า ซูซูกิ และมาสด้า เตรียมนำเข้าอีวี มาทำตลาดเช่นกัน

ด้านอีวี จีน จะมีแบรนด์ใหม่เข้ามาสมทบอีก 2-3 แบรนด์ ส่วนรายใหญ่ บีวายดี เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ อย่างน้อย 2 รุ่น ลุ้นปิกอัพ ปลั๊ก-อินไฮบริด BYD Shark 6 ว่าจะมาขายในปีหน้า หรือขยับแผนงานออกไป

 

ในส่วนสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้า EV ยังมีต่อไป แต่อาจจะเบาบางลงจากปีที่ผ่านมา และเห็นการใช้โปรโมชันที่สมเหตุสมผลกับช่วงเวลา เช่นรอยต่อของการเปลี่ยนโมเดล ที่จำเป็นต้องโละสต็อกรุ่นเก่า

ตลาดรถยนต์ปี 2568 ฟื้นตัวช้า อีวี ปิกอัพ ระดมเปิดตัวรุ่นใหม่

ขณะเดียวกัน การกลับมาเป็นประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา ของโดนัล ทรัมป์ ที่เตรียมจัดการเรื่องขาดดุลการค้ากับหลายๆ ประเทศ รวมถึงสินค้าจีน ที่ทำราคาต่ำเพื่อตีตลาด(ทั่วโลก) ดังนั้น จีนมีโอกาสผ่อนเบามาตรการสนับสนุนต่างๆ ที่มีต่อบริษัทผู้ผลิตสินค้าในประเทศ เช่นเดียวกับการตัดราคาระหว่างกันจะลดลง ตามคำสั่งของรัฐบาลจีน

 

นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด การที่ค่ายรถจีน สามารถลดราคา 2-3 แสนบาท แล้วยังสามารถทำกำไรได้ คงต้องยอมรับว่าผู้ผลิตจีนมีศักยภาพแข่งขันด้านราคาที่สูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การลดราคาขนาดนี้คงจะเกิดขึ้นเฉพาะในรถอีวี เท่านั้น

 

สำหรับโตโยต้า ไม่มีแผนลด และไม่คิดที่จะลดราคาไปแข่งขันแน่นอน เพราะผู้บริโภคคงต้องการรถที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันด้วย หากลดลงราคามากขนาดนี้ จะมีผลกระทบต่อการขายต่อแน่นอน

 

“เมื่อสองปีก่อนตลาดรถยนต์ในประเทศ ยังอยู่ที่ระดับ 840,000 คัน และปี 2567 อาจจะตกลงมาอยู่ที่ระดับไม่ถึง 6 แสนคัน ในส่วนของโตโยต้า ยอดขายก็ลดลงตามขนาดตลาด”

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น GDP ในไตรมาสที่ 3 มีการขยายตัว 3% และการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ของธนาคารแห่งประเทศไทย อาจจะทำให้สถานการณ์ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น และเราหวังให้รัฐบาลมีมาตรการที่จะช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ ที่กำลังตกอยู่ในความยากลำบากนี้ด้วย