นาย ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปี 2567 มีปัจจัยบวกได้แก่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะมีส่วนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากขึ้น รวมไปถึงการคลี่คลายของสภาวะโควิด-19 ที่ทำให้การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวขึ้น ส่วนปัจจัยลบที่ต้องเฝ้าระวัง คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยด้วย และเรื่องความเข้มงวดของบริษัทไฟแนนซ์
ส่วนสถานการณ์ของปีนี้ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาตลาดรถปิกอัพมีการหดตัว โดยมีสาเหตุสำคัญ ประกอบไปด้วย ความเข้มงวดของไฟแนนซ์ เนื่องจากความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของลูกค้าลดน้อยลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ของไฟแนนซ์สูงขึ้น สาเหตุข้อต่อมาคือเศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ราคาสินค้าต่าง ๆ ปรับสูงขึ้น ลูกค้ามีภาระเพิ่มมากขึ้น แต่รายรับลดลง
"อีซูซุคาดการณ์ว่าความเข้มงวดนี้จะยังคงอยู่จนถึงสิ้นปีนี้ ดังนั้นสถานการณ์ตลาดรถปิกอัพไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้ แต่จะต่อเนื่องไปถึงปีหน้าไหม ยังคาดการณ์ลำบากมากว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะเป็นอย่างไร ถ้าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้น สถานการณ์ก็น่าจะดี"
นายฮาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดปิกอัพในช่วงที่ผ่านมาหดตัวมากกว่าตลาดรถยนต์นั่ง เพราะลูกค้ารถปิกอัพส่วนใหญ่ ซื้อใช้สำหรับทำธุรกิจ เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้กำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มนี้มีปัญหามากกว่า อย่างไรก็ดีอีซูซูเพิ่งทำการเปิดตัวรถปิกอัพ“ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” ออกสู่ตลาด และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ทำให้ประเมินว่าน่าจะช่วยประคองตลาดไปได้
สำหรับยอดขายทั้งหมดของอีซูซุในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค.66) มีทั้งสิ้น 131,256 คัน ส่วนแบ่งตลาด 20.3% แบ่งเป็นปิกอัพ 99,852 คัน ส่วนแบ่งตลาด 43.9% หรือ 44% ,รถอเนกประสงค์ PPV หรือมิว-เอ็กซ์ 18,031 คันส่วนแบ่งตลาด 35% ขณะที่รถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ 13,373 คัน ส่วนแบ่งตลาด 55%
"เมื่อกลางปีที่ผ่านมา อีซูซุมีการปรับเป้าและคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์โดยรวมจะอยู่ที่ 820,000 คัน และตลาดรถปิกอัพอยู่ที่ประมาณ 300,000 คัน ซึ่งผ่านมา 10 เดือนแล้ว อาจจะไม่ถึงตรงนั้นก็ได้ ในส่วนของยอดขายปีนี้ของอีซูซุขึ้นอยู่กับตลาดรถปิกอัพ อีก 2 เดือนที่เหลือจะได้เท่าไหร่ เรายังสรุปตัวเลขไม่ได้ สำหรับส่วนแบ่งตลาด 10 เดือนแรก เรามีอยู่ 43.9% หรือ 44% และเหลืออีก 2 เดือน และรถใหม่เราก็ขายได้ เราจึงคิดว่าจะรักษาส่วนแบ่งตลาดนี้ไว้ได้"
นาย ฮาตะ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยของรัฐบาลในชุดปัจจุบัน โดยระบุว่า การที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะรักษาให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถสันดาปสุดท้ายของโลก อีซูซุเห็นด้วยกับนโยบายนี้และคิดว่าดีมาก เพราะการจะก้าวไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนไม่จำเป็นต้องรถไฟฟ้าอย่างเดียว แต่สามารถจะเป็นรถสันดาปภายใน ICE หรือเป็นรถพลังงานทางเลือกอื่น ๆ อีกทั้งนโยบายนี้ยังสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการรักษาซับพลายเชน หรือห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไว้ให้ได้มั่นคงเหมือนที่เคยเป็นมา ทำให้มีการจ้างงานต่อเนื่องด้วย
อนึ่งอีซูซุ ได้เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 (Thailand International Motor Expo 2023) ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2566 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยได้ยกขบวนรถ15 คัน ทั้งแบบรุ่นมาตรฐาน และแบบรถแต่งพิเศษ มาร่วมจัดแสดง ได้แก่