ค่ายฮาร์ลีย์ -เดวิดสัน เดินหน้ารุกตลาดบิ๊กไบค์พรีเมียม ด้วยการเข้าร่วมอีเวนต์ส่งท้ายปี Motor Expo 2022 พร้อมนำมอเตอร์ไซค์โมเดลรุ่นปี 2022 ร่วมจัดแสดง โดยมีไฮไลต์ อาทิ รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลแอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่งรุ่น Pan America Special ,รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลสปอร์ต Nightster และรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลครุยเซอร์ Sport Glide
นาย ซาจีฟ รัชเกคาราน กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย กล่าวว่า ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ฮาร์ลีย์ -เดวิดสันได้นำมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2022 ตั้งแต่สไตล์แอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่ง ไปจนถึงรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ขับขี่ในเมืองมาร่วมจัดแสดง โดยมีไฮไลต์ได้แก่
รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลแอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่งในรุ่น Pan America Special ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ตระกูล Revolution Max 1250 แรงม้า 150HP ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีกระบอกสูบขนาด 1,250cc แบบ V-Twin และเป็นครั้งแรกในวงการที่ Pan America มาพร้อมเทคโนโลยี Adaptive Ride Height ระบบกันสะเทือนแบบใหม่ สามารถปรับความสูงของเบาะลงขณะรถหยุดนิ่ง และปรับขึ้นในขณะรถเคลื่อนตัว อีกหนึ่งในไฮไลต์ที่น่าสนใจคือ ล้อซี่ลวดแบบไร้ยางใน ที่ทนทานและล้ำสมัย ซึ่งล้อแบบไร้ยางจะช่วยตัดน้ำหนักที่ไม่จำเป็นออกไปได้
รถมอเตอร์ไซค์ Pan America 1250 Special มาพร้อมสีสันหลากหลาย ได้แก่ สี Vivid Black สี Gauntlet Gray Metallic สี Deadwood Green และสี Baja Orange and Stone Washed White Pearl ทั้งหมดมีลายกราฟฟิกประทับอยู่สนนราคาเริ่มต้นที่ 1,046,000 บาท
รถมอเตอร์ไซค์ Nightster รุ่นใหม่ล่าสุดของรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลสปอร์ต (Sport) Nightster ถูกสร้างขึ้นจากมรดก 65 ปีของ Sportster ที่สืบทอดรากฐานมาจากรุ่นสู่รุ่น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Revolution Max 975T ใหม่ล่าสุด โดยตัวเลือกสีสำหรับ Nightster ได้แก่ สี Vivid Black สี Gunship Grey และสี Redline Red ในราคาเริ่มต้นที่ 641,000 บาท
รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลครุยเซอร์ (Cruiser) อย่างรุ่น Sport Glide มาพร้อมขุมกำลัง Milwaukee-Eight® 107 อีกทั้งยังมาพร้อมกับกระเป๋าข้างถอดได้แบบแข็ง และแฟริ่งขนาดเล็ก สามารถถอดออกได้ง่ายสำหรับผู้ที่ต้องการภาพลักษณ์สไตล์ครุยเซอร์ หรือสำหรับใครที่ต้องการเพิ่มความสะดวกสบาย และความคล่องตัวในการเดินทางบนท้องถนนหรือในชีวิตประจำวันก็สามารถติดตั้งแฟริ่งกลับเข้าไปได้
นอกจากนี้ โช้คหัวกลับ และโช้คหลังโมโนที่มาพร้อมการปรับพรีโหลดภายนอก ยังช่วยให้เหล่าผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ราคาเริ่มต้นที่ 978,000 บาท
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Sportster S ที่เป็นแรงบันดาลให้กับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Nightster ถูกจัดแสดงอยู่ภายในบูธเช่นเดียวกัน Sportster S ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Revolution Max โดย Sportster S มาพร้อมกับสี Vivid Black สี Stone Washed สี White Pearl และ สี Midnight Crimson ในราคาเริ่มต้นที่ 758,000 บาท
นอกจากนี้ ภายในบูธยังมีโมเดลตระกูลครุยเซอร์ (Cruiser) รุ่นอื่น ๆ อาทิ รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Fat Boy 114 และ รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout 114 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Fat Boy 114 ราคาเริ่มต้นที่ 1,038,000 บาท และรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout 114 ราคาเริ่มต้นที่ 1,108,000 บาท