มาสด้าปรับโครงสร้างการขายใหม่ คุมโปรโมชัน ดีลเลอร์ไม่ต้องสต๊อกรถ

17 พ.ย. 2565 | 09:16 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2565 | 16:44 น.
1.2 k

"มาสด้าปรับโครงสร้างการขาย" รถยนต์ครั้งใหญ่ ควบคุมโปรโมชัน ป้องกันการตัดราคาของดีลเลอร์และมั่วเขตการขาย ชี้ปัญหาชิปขาดแคลนยังซับซ้อน พร้อมปรับเป้าหมายการขายปีนี้เหลือ 3.5 หมื่นคัน

มาสด้าปรับโครงสร้างการขายรถยนต์ครั้งใหญ่ เน้น One Price Policy ใช้โปรโมชันเดียวกันทั้งประเทศและหันไปผลักดันโปรแกรมบำรุงรักษา MAZDA ULTIMATE SERVICE (เปรียบได้กับ BSI ของ BMW) พร้อมใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ Sky Journey ดูแลการขาย การติดตามลูกค้า เอื้อดีลเลอร์ไม่ต้องลงทุนสต๊อกรถไว้ขาย

มาสด้าปรับโครงสร้างการขายใหม่ คุมโปรโมชัน ดีลเลอร์ไม่ต้องสต๊อกรถ

จากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนเพื่อการผลิตรถยนต์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ถึงวันนี้สถานการณ์ยังขึ้นๆ ลงๆ ต้องจับตาแบบวันต่อวัน เพื่อนำมาประเมินแผนการผลิต และการส่งมอบรถยนต์ให้แก่ลูกค้า มาสด้า เป็นอีกหนึ่งค่ายรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้ และปรับเป้ายอดขายลดลงมาเรื่อยๆ จากเดิมในปี 2565 ตั้งใจว่าจะขายถึง 4.5 หมื่นคัน แต่เมื่อผ่านครึ่งปีหลัง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ลดตัวเลขลงมาเหลือ 4.0 หมื่นคัน

 

ล่าสุด มาสด้าหวังขายให้ได้ 3.5 หมื่นคัน เทียบเท่ากับยอดขายในปี 2564 ตามสภาพความเป็นจริง โดยรุ่นที่ยอดขายลดลงชัดเจนคือ Mazda 3 และ Mazda CX-5 ส่วนรุ่นขายดีอย่าง Mazda CX-3, Mazda CX-30, Mazda 2 ที่ผ่านมายังติดขัดเรื่องปัญหากำลังการผลิตเช่นกัน

 

สำหรับมาสด้า ทำยอดขาย 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค. 65) ได้ 28,900 คัน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราเติบโตตํ่ากว่าตลาดรวมที่มีจำนวนกว่า 6.9 แสนคัน เพิ่มขึ้น 17% ส่วนหนึ่งมาจากยอดขายมาสด้าในเดือนตุลาคม 2565 ที่เหลือเพียง 905 คัน จากที่เคยทำได้เฉลี่ย 3,000 คันต่อเดือน

มาสด้าปรับโครงสร้างการขายใหม่ คุมโปรโมชัน ดีลเลอร์ไม่ต้องสต๊อกรถ

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาชิปยังมีความซับซ้อน ส่วนหนึ่งเพราะสถานการณ์ในจีนที่รัฐบาลใช้มาตรการ Zero Covid ทำให้การผลิตชิ้นส่วนไม่สามารถดำเนินการได้เป็นปกติ จนกระทบกับหลายโรงงานผลิตรถยนต์ เช่นเดียวกับ เอเอที จ.ระยอง (ที่ผลิตมาสด้า และฟอร์ด)

“สถานการณ์นี้ยังกระทบกับยอดขายในไตรมาสที่ 4 ดังนั้นมาสด้าจึงปรับเป้าหมายการขายรวมในปีนี้ลงมาเหลือ 3.5 หมื่นคัน หรือทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2564”

 

อย่างไรก็ตาม รถยนต์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ Carbon Edition 4 รุ่นคือ Mazda 2, Mazda 3, Mazda CX-3, Mazda CX-30 ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษทั้งภายนอก-ภายใน (เพิ่มราคาจากรุ่นปกติ 10,000-12,000 บาท) บริษัทมีรถพร้อมส่งมอบทันที ด้วยจำนวน 1,500 คัน

มาสด้าปรับโครงสร้างการขายใหม่ คุมโปรโมชัน ดีลเลอร์ไม่ต้องสต๊อกรถ

นายธีร์ กล่าวว่า แม้ยอดขายจะได้รับผลกระทบ แต่บริษัทยังวางแผนเรื่องบริการหลังการขายเพื่อสร้างรายได้ให้ดีลเลอร์ รวมถึง มาสด้าปรับแผนงานต่างๆ เช่น การนำระบบปฏิบัติการ  Sky Journey มาใช้เพื่อติดต่อและติดตามลูกค้าเพื่อเข้ารับบริการ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพื่อรักษาลูกค้าในระยะยาว พร้อมเสริมธุรกิจรถยนต์มือสองคุณภาพดี CPO รองรับกับราคาขายต่อที่เพิ่มมูลค่ารถคันเดิมของลูกค้าให้สูงขึ้น

 

นอกจากนี้ มาสด้ายังมีสต๊อกรถกลาง นั่นหมายถึงดีลเลอร์จะไม่ต้องสต๊อกรถก็ได้ ซึ่งเป็นการลดตุ้นทุนในการดำเนินงานของดีลเลอร์ไปในตัว ทว่าดีลเลอร์รายไหนยังต้องการถือสต๊อกเพื่อความคล่องตัว สามารถทำได้เช่นกัน

 

ล่าสุดเปิดโปรแกรมคุ้มครอง และดูแลรถตลอดระยะเวลา 5 ปี MAZDA ULTIMATE SERVICE (MUS) ที่เป็นการมอบสิทธิพิเศษด้านการ บริการหลังการขายครั้งแรกของบริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น โดยครอบคลุมลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มาสด้าใหม่ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ทั้ง Mazda 3, Mazda CX-3, Mazda CX-30, Mazda CX-5 และ Mazda CX-8

 

“โปรแกรมนี้เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่มาสด้าจัดขึ้นเพื่อให้ลูกค้าหมดความกังวลกับค่าใช้จ่ายในการคุ้มครอง และได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า ผ่านโชว์รูม-ศูนย์บริการ 138 แห่งทั่วประเทศ ขณะที่ตัวดีลเลอร์ผู้ให้บริการจะได้รับเงินจากแพกเกจนี้ไปเต็มๆ ในอัตราที่สูงสุด” นายธีร์ กล่าวสรุป