ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย กระตุ้นความสดใหม่ของโปรดักต์ช่วงกลางปีด้วย Suzuki Swift GL Plus ที่นำรุ่นย่อย GL มาเพิ่มชุดแต่งสร้างความโดดเด่นเฉพาะตัว พร้อมขายในราคา 5.72 แสนบาท
Suzuki Swift GL Plus ขยับราคาจากรุ่น GL ปกติ 1 หมื่นบาท แต่คุณจะได้ชุดแต่งทั้ง สเกิร์ตรอบคัน (หน้า, ข้าง,หลัง) สปอยเลอร์หลัง เสาอากาศครีบฉลาม และแต้มความเข้มด้วยซุ้มล้อสีดำ พร้อมสติ๊กเกอร์กราฟฟิกเฟี้ยวๆ แปะข้างตัวถัง
...เรียกว่าใครซื้อรุ่นนี้ไปพร้อมเท่ได้เลย จัดไฟแนนซ์ทีเดียว ผ่อนกันยาวๆ แต่ที่สำคัญใครซื้อสวิฟต์รุ่นนี้ผมว่า หลายคนเอาไปเปลี่ยนล้ออัลลอยลายที่ตัวเองชื่นชอบแน่นอน (เพราะของเดิมเป็นล้อกระทะพร้อมฝาครอบขนาด 15 นิ้ว ประกบยาง 175/65 R15)
อีโคคาร์แฮตช์แบ็กรุ่นยอดนิยมของซูซูกิ เพิ่งจะไมเนอร์เชนจ์เมื่อต้นปี 2564 แต่โดยรวมไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรไปมาก หรือที่เห็นชัดๆ มีเพียง กระจังหน้ามีลายโครเมียมคาดกลาง กระจกมองข้างพับไฟฟ้า ระบบ Push Start,Smart Entry เข้า-ออกภายในห้องโดยสาร และกดปุ่มสตาร์ทรถ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และรุ่น GLX เปลี่ยนหน้าจอกลางเป็นทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว
ส่วน Suzuki Swift GL ซึ่งเป็นรุ่นย่อยที่ขายดีที่สุด ในสัดส่วน 70-80% (ที่เหลือเป็น GLX) ฟังก์ชันต่างๆ จัดมาให้เท่าที่จำเป็น เน้นราคาเข้าถึงง่ายแต่ก็พยายามเพิ่มสีสันด้วยรุ่นพิเศษมาโดยตลอด
รีวิว Suzuki Swift GL Plus ที่ได้ชุดแต่งมาหลายรายการ ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายเพิ่มไป 1 หมื่นบาท และยังมีอุปกรณ์มาตรฐาน (เดิม) ไล่ตั้งแต่ไฟหน้าแบบแบบฮาโลเจนมัลติรีเฟลคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light แบบ LED ติดตั้งแยกออกมาอยู่ตรงชายกันชนด้านล่าง
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุแบบผ้า ส่วนพนักพิงเบาะแถวหลังพับลงได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
เหนืออื่นใด จุดเด่นของ Suzuki Swift ที่หาตัวจับได้อยาก และแตกต่างกับอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ น่าจะเป็นเรื่องสมรรถนะการขับขี่ครับ
แม้ Suzuki Swift จะไม่ใช่รถที่แรงที่สุดในคลาส (พละกำลังคงไปสู้ 1.0 ลิตร เทอร์โบของ Honda City ไม่ได้) แต่ด้วยขนาดรถสั้นๆ ล้อคู่หน้า-หลัง พยายามดันไปให้สุดขอบเท่าที่จะทำได้ (รถโอเวอร์แฮงค์สั้นเหมือน MINI)
ด้วยโครงสร้างการพัฒนาและแพลตฟอร์ม HEARTTECH อัน แข็งแกร่งนํ้าหนักเบาแบบนี้ละครับ ถือว่าไม่ธรรมดา รถขนาดกะทัดรัด ขับขี่คล่องตัว จะเปลี่ยนเลน มุดซ้าย ป่ายขวา เลี้ยวซอยแคบหรือถอยเข้าจอดแบบขนานหรือถอยเข้าซองทำได้สบาย
พวงมาลัยไม่เบาโหวงเหวง การควบคุมเป็นไปตามสมองสั่งงาน ตามสายตาที่มุ่งทิศทางไป ขณะที่ช่วงล่างไม่นุ่มมากและก็ไม่แข็ง ขับทางไกลใช้ความเร็วประมาณ 120 กม./ชม.การทรงตัวยังโอเค เพราะอย่าลืมว่ารถใช้ยางล้อแค่ 175/65 R15
การขับขี่ทั่วไป Suzuki Swift GL Plus ทำได้ดี แต่จะเหมาะสมที่สุดกับการเป็นซิตี้คาร์ ใช้งานเนียนๆ สอดคล้องกับสมรรถนะของเครื่องยนต์และเกียร์
เครื่องยนต์เบนซินรหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร พร้อมหัวฉีดคู่ DUALJET ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาทีส่งกำลังลงสู่ล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT รถออกตัวได้กระฉับกระเฉง แต่ย่านความเร็วกลางอาจจะหนืดไปหน่อย
แน่นอนว่าการเป็นอีโคคาร์ต้องคำนึงถึงการปล่อยไอเสียและอัตรา บริโภคนํ้ามัน ซึ่งอีโคสติกเกอร์แจ้งไว้ระดับ 23 กม./ลิตร ส่วนการขับขี่จริงของผม เริ่มจากใจกลางเมืองในกรุงเทพและวิ่งทางไกลออกไปหัวหินยังเห็นตัวเลข 16-17 กม./ลิตร สบายๆ ครับ
เรื่องความปลอดภัยเสริมด้วย แทรคชันคอนโทรล TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง พร้อมระบบเบรก ABS และ EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP พร้อมระบบ Hill Hold Control ที่ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (รถไม่ไหลในช่วงที่เท้ายกออกจากแป้นเบรกไปเหยียบคันเร่ง)
รวบรัดตัดความ...รีวิว Suzuki Swift GL Plus สมรรถนะโดดเด่น โดยเฉพาะช่วงล่าง การควบคุม ขับขี่ในเมืองคล่องแคล่ว เป็นรถที่ง่ายทั้งการเป็นเจ้าของ การดูแลรักษา และจิบนํ้ามันในระดับอีโคคาร์
รีวิว Suzuki Swift GL Plus : กรกิต กสิคุณ