มิตซูบิชิ ตั้งเป้าปี 67 รถยนต์นั่งทุกรุ่นเป็น xEV

20 มี.ค. 2565 | 03:48 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มี.ค. 2565 | 03:56 น.

มิตซูบิชิ ประกาศแผนรุกตลาดรถยนต์ไทยเต็มสูบ ตั้งเป้าหมายปี 2567 รถยนต์นั่งทุกรุ่นจะเป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า xEV

ค่ายมิตซูบิชิ เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์เต็มสูบ โดยก่อนหน้านั้นเพิ่งเปิดโรงงานพ่นสีที่ลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะรองรับไลน์ผลิตมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี, ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต ส่วนแนวรุกล่าสุดคือการประกาศว่าในปี 2567 รถยนต์นั่งทุกรุ่นจะถูกปรับจากเครื่องยนต์เป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าหรือ xEV

 

ปี 2567 ผลิตรถยนต์นั่งที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น


นาย เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เป้าหมายในปี 2567 ที่วางไว้สะท้อนความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เพื่อมุ่งสู่โลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ทั้งนี้รถ xEV ที่จะก้าวไปนั้น มีโอกาสที่จะเป็นทั้งรถ PHEV หรือ BEV ก็ได้ 

 

"มิตซูบิชิ เชื่อว่ารถ PHEV เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะสานต่อไปยังตลาดรถ BEV แม้ว่าขณะนี้ตลาดรถ PHEV ในไทยเป็นตลาดที่เล็กแต่เราเชื่อว่าจะช่วยสร้างให้มันใหญ่ขึ้นในอนาคต ส่วนการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อรองรับ xEV นั้นรายละเอียดเบื้องต้น ยังบอกอะไรมากไม่ได้ ทั้งเรื่องการลงทุน รวมถึงรุ่นรถ แต่เราเชื่อว่าPHEV เหมาะกับการใช้งานในเมืองไทย ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ก็กำลังศึกษา"

นาย เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
 

ปัจจุบันมิตซูบิชิได้นำรถมินิแวน  Mitsubishi Mini Cab MiEV จำนวน 2 คัน มาให้ไปรษณีย์ไทยทดลองวิ่ง เพื่อทดสอบการใช้งาน ระยะการวิ่ง  ระยะหยุด การชาร์จไฟ ดูการใช้งานต่างๆว่าจะต้องปรับ หรือแก้ไขสเปคอย่างไร 

 

Mitsubishi Mini Cab MiEV

ส่วนรถกระบะอีวี จะได้เห็นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ​ตลาดว่าต้องการ​แบบไหน​ ปัจจุบัน​พฤติกรรม​การใช้งานกระบะจะใช้เพื่อขนของ วิ่งระยะไกล ซึ่งเครื่อง​ยนต์ดีเซล​ได้เปรียบ และเมื่อมองไปที่ทั่วโลกก็ยังคงใช้งานรถกระบะเครื่อง​ยนต์​ดีเซล​อยู่ อย่างไรก็ตามมิตซูบิชิคงต้องประเมินตลาดอีกทีในอนาคต

 

การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบัน-นโยบายรัฐ


ปัจจุบันมีผู้เล่นจากจีนเข้ามาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า มิตซูบิชิมองว่าการแข่งขันในตลาดมีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอด ซึ่งมิตซูบิชิมีแผนธุรกิจออกมารองรับ โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีในการรองรับความต้องการของลูกค้ามากกว่า และมิตซูบิชิมองว่าการก้าวไปสู่รถ BEV จะไม่โตแบบก้าวกระโดด โดยมองว่าต้องเริ่มจาก PHEV ก่อน ซึ่งก็สอดคล้องกับนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลไทยที่ออกมาขณะนี้

 

 

สำหรับแนวทางหรือนโยบายที่รัฐบาลไทยออกมาในขณะนี้ มีส่วนช่วยให้ตลาดใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตามสัดส่วนยังคงเป็นรถยนต์ไฮบริด​ ประกอบกับการที่รัฐปรับโครงสร้าง​ภาษีก็ทำให้ราคารถกลุ่มนี้ไม่แตกต่างจากเครื่องยนต์ปกติ ตรงจุดนี้มิตซูบิชิมองว่าจะช่วยให้ตลาดขยาย โดยเริ่มจาก PHEV ก่อนหลังจากนั้นค่อยขยับมาเป็น  BEV เพราะปัจจุบัน BEV ในตอนนี้ยังถือเป็น second car เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องการเดินทาง

 

เปิดรถยนต์รุ่นใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ 2565 

ในปี 2565 มีแผนเปิดตัวมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ซึ่งถือเป็นรถเอ็มพีวีที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศไทย โดยการปรับโฉมครั้งนี้มาพร้อมการยกระดับการออกแบบใหม่ทั้งหมด มีการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง (CVT) เพื่อลดอัตราการบริโภคน้ำมัน 

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่

นอกจากนั้นแล้วยังเตรียมเผยโฉมรถยนต์แรลลี่อาร์ตสองรุ่นใหม่ ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ต ดับเบิลแค็บ และมิตซูบิชิ มิราจ แรลลี่อาร์ต ที่จะมาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับตำนานของแรลลี่อาร์ต โดยจะได้เห็นรถรุ่นใหม่นี้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43


มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ต