"เบนซ์" รีเซ็ตโครงสร้างผู้จำหน่าย เพิ่มอะไหล่ Star Parts ราคาถูกลง 30%
เมอร์เซเดส เบนซ์ ประเทศไทย รีเซ็ตโครงสร้างผู้จำหน่ายใหม่ ปรับแนวคิดมุ่งสู่ดิจิทัล ทั้งยังลดโชว์รูมขาย ขยายศูนย์บริการ พร้อมเพิ่มอะไหล่ Star Parts ราคาถูกลง 30% สำหรับรถอายุ 4 ปีขึ้นไป พร้อมตั้งเอ็กซ์คลูซีฟดีลเลอร์ ลงทุนใหญ่รถยนต์ไฟฟ้า EQ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฟรีซโชว์รูม 3S ไม่มีแผนเปิดเพิ่ม พร้อมปรับแนวคิดดีลเลอร์ให้เน้นบริการหลังการขาย และดึงบิ๊กดาต้าลูกค้าเพื่อนำมาออกแบบบริการใหม่ๆ โดยวางแผนกระจายศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ Stand-alone สร้างกำไรอย่างยั่งยืน ส่วนเอ็กซ์คลูซีฟดีลเลอร์ Mercedes Maybach ได้แล้ว 4 ราย แต่ EQ รถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่ลงทุนสูงกว่ายังไม่สรุป
จากสภาพแวดล้อมทางการตลาด ของธุรกิจรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลง การแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องพลิกแนวคิด หรือไม่สามารถใช้ตำราเล่มเดิมได้อีกต่อไป ขณะเดียวกันไวรัสโควิด-19 ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้การปรับโครงสร้างทางธุรกิจมาถึงเร็วขึ้น เริ่มเห็นได้จากนโยบายของบริษัทแม่ ส่งผ่านเป็นกลยุทธ์ไปถึงดีลเลอร์
เจ้าพ่อรถหรู “เมอร์เซเดส- เบนซ์” ประกาศปรับแผนธุรกิจด้านการขายและบริการหลังการขายในไทยครั้งใหญ่ โดยที่ผ่านมาเริ่มเห็นการลดจำนวนโชว์รูม 3S ลง โดยบางดีลเลอร์หันไปทำศูนย์บริการอย่างเดียว เช่น กลุ่มพันทวียนต์ ส่วนดีลเลอร์ที่มีโชว์รูมอยู่เดิมยังเปิดศูนย์บริการ Stand-alone เพิ่มเติมเช่น TOUCH ของ ธนบุรีพานิช และ เบนซ์ เภตรา เปิดที่ จ.อยุธยา
นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส- เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยแรงผลักดันจากความเปลี่ยนแปลงในเรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล และการฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 เมอร์เซเดส-เบนซ์วางเป้าหมายที่จะรีเซ็ตเครือข่าย เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินกลยุทธ์การขายรูปแบบใหม่ ขณะที่ธุรกิจบริการหลังการขายถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญ เราจึงต้องต่อยอดธุรกิจโดยเฉพาะช่องทางดิจิทัล เนื่องจากเรามีฐานลูกค้าเยอะ มีดาต้าของลูกค้าจำนวนมากที่สามารถนำมาออกแบบบริการใหม่ๆให้เหมาะสมกับตลาดเมืองไทย
“เราบอกกับดีลเลอร์ว่า วันเวลาที่หอมหวานไม่ได้กลับมาแล้ว อย่างเราเคยมีโชว์รูมขาย 19 แห่งในกรุงเทพ วันนี้ต้องคิดว่ามันเพียงพอหรือไม่ หรือมีมากกว่าความต้องการหรือไม่ ซึ่งนับจากนี้บทบาทของผู้จำหน่ายต้องเปลี่ยนไป คงต้องปรับตัวพอสมควร”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งเป้าเพิ่มความหลากหลายของการขายและการบริการ บนพื้นฐานของการเติบโตอย่างมีกำไร พร้อมขยายฐานลูกค้าด้วยการขยายซับแบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย และรักษาฐานลูกค้าด้วยการสร้างความใกล้ชิดผ่านช่องทางออนไลน์ ตลอดจนการปรับฐานต้นทุนให้ตํ่าลง เพิ่มประสิทธิภาพในการขายของโชว์รูม
“ต่อไปเราจะดูว่ายอดขายโตอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเน้นการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ทำให้ดีลเลอร์มีกำไร และถ้าดีลเลอร์มีกำไร ก็จะมีความสุขในการบริการลูกค้า” นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ กล่าวสรุป
นายพุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหารฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากยอดขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีนโยบายเพิ่มจำนวนศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการในบางพื้นที่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับจำนวนลูกค้าให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
ในส่วนแผนงานอะไหล่ ล่าสุดเพิ่ม อะไหล่เบนซ์ Star Parts ที่ราคาถูกลง 30% สำหรับรถยนต์อายุ 4 ปีขึ้นไป และรองรับรถกลุ่มคอมแพกต์ เช่น เอ-คลาส และ จีแอลเอ
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถใน 2 ซับแบรนด์คือ Maybach และรถพลังงานไฟฟ้า 100% ตระกูล EQ
ในส่วน Maybach เตรียมเปิดตัว 2 รุ่นภายในปีนี้ คือ Mercedes Maybach GLS และ Mercedes Maybach S-Class พร้อมตั้ง 4 เอ็กซ์คลูซีฟ ดีลเลอร์เข้ามาดูการขายและบริการหลังการขาย คือ เบนซ์ ทีทีซี, เบนซ์ บีเคเค, เบนซ์ สตาร์แฟลก และ เบนซ์ ไพรม์มัส
ส่วนแบรนด์ EQ เตรียมเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น EQS ต้นปี 2565 และจะตั้ง 4 ดีลเลอร์เข้ามาดูแลการขายและบริการหลังการขายเช่นกัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมีรายได้บ้าง ซึ่งแต่ละดีลเลอร์ต้องลงทุนเพิ่มเติม