มนต์เสน่ห์แห่งล้านนา ซึ่งถูกบรรจงแต่งแต้มสถาปัตยกรรมอันงดงามให้ “โรงแรม ศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่” มีเอกลักษณ์ความเป็นลักชัวรี ล้านนา อันโดดเด่น ตราตรึงให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนอย่างเรา ได้เข้าถึงวิถีชีวิตเรียบง่าย ธรรมชาติอันงดงาม ท่ามกลางทุ่งนา สวนดอกไม้ หลอง(ยุ้ง) ข้าวโบราณ บ้านเรือนไทย ต้นไม้โบราณ ใหญ่น้อยร่วม 100 สายพันธุ์ นับหมื่นต้น
การได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์ ไปพร้อมๆกับทัศนียภาพอันร่มรื่น ของต้นไม้กว่า 2 หมื่นต้น ในโรงแรม ศิริปันนา เชียงใหม่ ที่พักระดับ 5 ดาวสไตล์ล้านนา บนพื้นที่ 15 ไร่ เติมเต็มวันพักผ่อนดีๆให้เราได้มากเลย แลนด์สเคปภายในโรงแรม ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ภายใต้แนวคิดและแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก “เวียงกุมกาม”
กลิ่นอายความเป็นล้านนา สะท้อนผ่านการตกแต่งของอาคารต่างๆ บรรยากาศภายในห้องพัก และพื้นที่โรงแรมโดยรอบ ที่นี่มีห้องพักรวมกว่า 132 ห้อง ใน 13 รูมไทป์ ซึ่งกระจายตัวอยู่ใน 3 โซนอาคารห้องพัก จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ใครชอบมู้ดแอนด์โทนสไตล์ล้านนา เลอค่า แนะนำให้เลือกพักในห้องแบบ “ ดีลักซ์ ล้านนา” ตกแต่งสไตล์ล้านนา เรียบหรู ดูอบอุ่น ระเบียงกว้าง ห้องน้ำใหญ่มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ
ห้อง“ดีลักซ์ ล้านนา พลันช์พูล แอคเซส” กลิ่นอายเสน่ห์แห่งเมืองเหนือ ที่มาพร้อมสระแช่ตัว และจากุซซี่ ระเบียงกว้าง มาเป็นคู่ เลิศอ่ะ
ส่วน “แกรนด์ ดีลักซ์ ล้านนา” ห้องพักสไตล์ล้านนาไทย
สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว แนะนำให้รีเควส “รอยัลล้านนา วิลล่า” ห้องพักแบบวิลล่าส่วนตัว ห้องน้ำและอ่างอาบน้ำใหญ่มาก และ “แกรนด์รอยัล ล้านนา วิลล่า” ห้องวิลล่าส่วนตัวที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวเล็กๆในวิลล่า
ขณะที่ถ้าเป็นวัยรุ่น หรือคนชอบความเก๋ น่าจะชอบห้องพักในโซน “เอส ลอฟท์” ซึ่งห้องพัก “เอส ลอฟท์ ดีลักซ์” ดูทันสมัย ในอาคารสถาปัตยกรรมแบบ Asian Art Loft เน้นการโชว์พื้นผิวปูนเปลือย เหมาะกับวัยรุ่นหรือคนที่ชอบพักในสไตล์ดิบๆเท่ๆ ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้
ส่วนคนที่กำลังมองหาห้องพักทันสมัย ต้องเป็นห้องพักในโซน “ศิริปันนา แกลเลอรี่” อย่าง “ดีลักซ์ แกลเลอรี่” จะเป็นสไตล์โมเดิร์น ทรอปิคัล ล้านนา
โดดเด่นด้วยภาพเขียนของศิลปินเมืองเหนือ ที่ถูกคัดสรรมาอย่างวิจิตร เพื่อถ่ายทอดมุมมองและความประทับใจที่มีต่อความงามในส่วนต่างๆของศิริปันนา ทำเราสุขใจไปกับเรื่องราวของงานศิลปะ ธรรมชาติ และความสงบแบบเรียบง่ายของวิถีชีวิตล้านนา
ไฮไลท์ของโรงแรม เราชอบสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ขนาด 300 ตารางเมตร มีจากุซซี่ ให้นอนแช่ตัวด้วย ดีไซน์ของสระถูกออกแบบให้เป็นดั่งสัญลักษณ์ของแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความเจริญรุ่งเรืองในสมัยเวียงกุมกาม เมืองเก่าแก่ครั้งก่อนเมืองเชียงใหม่
รายล้อมด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ มี “ฟิตเนส” โดนใจคนชอบออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติ รวมถึง “คิดส์คลับ” ที่เหมาะกับเด็กน้อย
ทั้งโรงแรมยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ร่วมกิจกรรมได้ทั้งครอบครัว อย่าง การเดินเล่นในสวนธรรมชาติ เรียนรู้เรื่องพันธุ์ไม้ในรีสอร์ท รวมทั้งการทดลองดำนาที่ทุ่งข้าวปันนา ในช่วงที่โรงแรมปลูกข้าว เดือนเมษายน-ตุลาคมนี้ด้วย
มาที่นี่การเดินเล่นรอบโรงแรม ท่ามกลางพันธุ์ไม้น้อยใหญ่ ให้ความร่มรื่น ยืนต้นตระหง่าน รายล้อมรอบรีสอร์ท การได้เดินผ่านอุโมงต้นไผ่ที่โอนอ่อนพริ้วไหว สดับฟังเสียงธรรมชาติ ฮีลใจขั้นสุด
ส่วนใครชอบผ่อนคลายในสปา ที่นี่มี “ดีวานา สปา” มีทรีตเม้นท์เพียบ
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของโรงแรม คือ “เฮือนศิลป์สล่า” บ้านไม้ทรงไทยเรือนงาม ท่ามกลางความเขียวขจีของทุ่งข้าวปันนา เราเห็นคนจัดงานแต่งงาน โดยเฉพาะการแต่งงานในแบบล้านนา งานประชุม งานเลี้ยงในแบบกาดหมั้ว และขันโตกดินเนอร์ ได้ฟิวดีมาก
สถาปัตยกรรมล้านนาอันโดดเด่น กับความสุขแห่งวิถีล้านนา ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ อันเอกลักษณ์อันทรงเสน่ห์ของรีสอร์ทแห่งนี้
ประสบการณ์ไดนิ่งภายในโรงแรม ศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่ ไม่ได้มีไว้เพียงแต่การบริการลูกค้าที่มาเข้าพักในโรงแรมเท่านั้น
แต่เอ้าท์เล็ทการบริการอาหารต่างๆในโรงแรม ยังเน้นรองรับลูกค้าจากนอกโรงแรม ที่กำลังมองหาอาหารอร่อย ในหลากหลายรูปแบบ ภายในบรรยากาศดี้ดี แถมใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ราว 10 นาที
“ห้องอาหารสลีบันยัน” นอกจากให้บริการอาหารบุฟเฟ่ต์มื้อเช้าหลากหลาย ที่มาพร้อมกับขนมไทย ที่ทำกันสดๆไม่ซ้ำกันใน 7 วัน อาทิ ช่อผกากรอง ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมครก บัวลอย ครองแครง ล่าเตียง และเมี่ยงคำ สำหรับลูกค้าที่มาพักในโรงแรมแล้ว
ห้องอาหารนี้ยังเปิดขาย “บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน” สำหรับลูกค้าทั่วไปด้วย ห้องอาหารไม่หลุดธีมล้านนา 11.30 น.ปุ๊ปพร้อมให้ตักบุฟเฟ่ต์ทานกันได้เลย มีทั้งอาหารนานาชาติ อาหารเหนือ ติ่มซำร้อนๆ ซูชิ อาหารไทย เบเกอรี่โฮมเมด ขนมผลไม้ อิ่มจุกๆ ราคาคนละ 199 บาทเอง
สายหวานห้ามพลาด กับ “นาขวัญ คาเฟ่” คาเฟ่ในสวนดอกไม้ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ รับรองโดนใจคนที่กำลังมองหาคาเฟ่สวยๆ บรรยากาศชิลล์ๆ เติมเต็มความสดชื่นไปกับเครื่องดื่มแก้วโปรด
อร่อยฟินไปกับ ขนมโฮมเมด พาเหรดขนมเค้กนานาชนิด ครัวซองต์หลากหลายรสชาติ อย่าง ครัวซองต์ไวท์ช็อค ครัวซองต์ช็อกโกแลต ครัวซองต์ชาเขียว ครัวซองต์ออริจินอล
ครัวซองต์แป้งหนานุ่มหอมเนย รวมไปถึงมาการอง หลายรส ทั้งสวยทั้งอร่อย ราคาจับต้องได้
หรือถ้าใครชอบอาฟเตอร์นูนที ที่นี่ก็จัดเซ็ทไว้บริการเช่นกัน ราคา 450 บาท และที่นี่ยังมีเซ็ทอาหารเช้าไว้บริการอีกด้วย
คาเฟ่มีฟีลให้เราเลือกนั่งได้ทั้งในโซนห้องแอร์ ทานขนมเย็นๆใจ และพื้นที่เอ้าท์ดอร์ นั่งกินเบเกอรี่ สบายๆ ในสวนกว้าง นั่งเล่น เดินเล่น วิ่งเล่น ชมสวนดอกไม้
ดื่มด่ำธรรมชาติสีเขียว หรือขึ้นไปชมวิวบนหลองข้าวแบบล้านนาไทยโบราณ และเรือนไม้สักโบราณ ก็เป็นวิวพ้อยท์ที่น่าสนใจ
ถ้ามาช่วงนี้เราจะเห็นแปลงดอกไม้สวยงามบานสะพรั่งรับลมหนาว บางช่วงก็จะถูกเนรมิตเป็นพื้นที่ “ทุ่งข้าวปันนา” ให้เราชมทุ่งนาไปพร้อมๆกับการจิบชายามบ่าย
คาเฟ่ที่นี่เปิดให้บริการ ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. เหมาะกับการออกมาหาอาหารอร่อย เช็คอินคาเฟ่สวนดอกไม้ในเมือง สวยปังทุกมุม แถมอยู่ห่างจากประตูท่าแพราว 4 กิโลเมตร เท่านั้น เดินทางสะดวกเลย
ประสบการณ์ดินเนอร์ อากาศเย็นๆใจกลางเมืองเชียงใหม่ การได้นั่งปิ้งย่างชาบู ท่ามกลางสนามหญ้าเขียวขจีกลาง สวนดอกไม้ บรรยากาศดี้ดี ไม่ต้องไปหาฟิลลิ่งแบบนี้กันถึงบนดอย มาที่นี่ก็ฟิน กับ “Camping ปิ้งย่าง & ชาบู ปันนา”
อิ่มอร่อยยกแก๊งกับเพื่อน หรือ ครอบครัว ไปกับ เซ็ทเมนู ซึ่งมีให้เลือกทั้ง เซ็ทเมนูหมู เนื้อเลิฟเวอร์ และเซ็ททะเล กุ้งแม่น้ำ หมึก ปลา ราคาเริ่มต้น 199-499 บาท เมนูทุกชุดมาพร้อมกับชุดผัก
เราเลือกได้ตามชอบว่าจะปิ้งย่าง หรือ ชาบู เพราะมาพร้อมกันเลย น้ำซุปชาบู มีให้เลือก 2 แบบ ทั้งซุปน้ำใส และน้ำดำ รสชาติกลมกล่อม เราเลือกทั้ง 2 แบบเลย ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดสูตรพิเศษของโรงแรม คือ ใช่เลย เซ็ทนึง ทานได้ 2-3 คน แต่ละเมนูล้วนพรีเมี่ยม จะเลือกทานเป็นเซ็ท
หรือจะสั่งแบบ A la cate เลือกแต่ละเมนูตามชอบ ก็ได้ อาทิ สะโพกหมูสไลด์ เนื้อสันนอก เนื้อเสือร้องไห้ กุ้งขาว กุ้งแม่น้ำ และอีกเพียบ ราคาเริ่มต้นจานละ 59 บาท ที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 - 22.00 น. ทุกวัน
ความอร่อยลงตัวที่คุณไม่ควรพลาดไปปักหมุดเช็คอิน