'ซัคเซสมอร์' ต้นแบบทางความคิดสู่การยกระดับไทยก้าวสู่การเป็นฮับ (HUB) ธุรกิจเครือข่าย

23 พ.ค. 2559 | 15:00 น.
942
บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด เป็นหนึ่งในธุรกิจเครือข่ายที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด เป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจ หล่อหลอม จิตวิญญาณ พัฒนาและเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของผู้คน ภายใต้การบริหารงานโดย น.พ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานผู้ก่อตั้งบริษัท และ คุณนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร กรรมการผู้จัดการบริษัท ร่วมกันขับเคลื่อนและวางรากฐานทางธุรกิจเพื่อทำให้ซัคเซสมอร์ในวันนี้เจริญเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน

น.พ.สิทธวีร์ เปิดเผยว่า สิ่งสำคัญในธุรกิจเครือข่ายคือการ “สร้างความสมดุล”ระหว่าง “ผู้บริโภค นักธุรกิจ และองค์กร” อย่างลงตัวและเหมาะสม โดยการสร้างความสมดุลของผู้บริโภคเราต้องคำนึงถึงและคิดถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นสำคัญ บนพื้นฐาน “ความมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม”สามารถกลับมาซื้อซ้ำได้ต่อเนื่อง ด้วยการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์เพอร์ซันนัล แคร์ ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงาม ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มผลิตผลทางด้านการเกษตร

[caption id="attachment_54932" align="aligncenter" width="500"] น.พ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานผู้ก่อตั้งบริษัท และ คุณนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร กรรมการผู้จัดการบริษัท น.พ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานผู้ก่อตั้งบริษัท และ คุณนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร กรรมการผู้จัดการบริษัท[/caption]

ทั้งนี้ยังคิดค้น วิจัย ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่มีนวัตกรรมและคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเรื่องการกำหนดราคาเป็นอีกส่วนที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ฉะนั้นแล้วผลิตภัณฑ์ของซัคเซสมอร์ทุกชิ้นจะคำนึงถึงเรื่องการกำหนดราคาให้มีความยุติธรรม และคุ้มค่าเงินเสมอ โดยตลอดระยะเวลา 3 ปี ของการดำเนินธุรกิจเครือข่ายที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ของซัคเซสมอร์ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก การันตีด้วยการสั่งซื้อสินค้าซ้ำหรือ (Repeat Order) ในอัตรา 22% ซึ่งถือเป็นอัตราการซื้อซ้ำที่สูงมากและนี่คือสิ่งที่บ่งชี้ให้เห็นได้ชัดว่า “ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค”

ด้านการให้ความสะดวกสบายกับผู้บริโภค ทางซัคเซสมอร์มีสาขาให้บริการ 23 สาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และในปี 2559 น.พ.สิทธวีร์ ตั้งเป้าหมายการขยายสาขาไว้ว่าจะเพิ่มจากเดิม 10-12 สาขา โดยจะขยายสาขาไปยังกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น ประเทศเวียดนามซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่ ฮานอย ก็จะขยายสาขาไปยัง โฮจิมินห์ ดานัง และแคนเทอ ประเทศเมียนมา ปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ ก็จะขยายไปยังเมืองเทาจี และมะละแหม่ง ในประเทศ สปป.ลาว ปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่เวียงจันทน์และปากเซ ในประเทศกัมพูชามีสาขาอยู่ที่ พนมเปญ และในประเทศไทยก็จะขยายสาขาไปยังจังหวัดนครสวรรค์ ชลบุรี และสุพรรณบุรี โดยแบบแผนดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นฮับ (HUB)ของธุรกิจเครือข่ายต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ดีคุณนพกฤษฏิ์ เปิดเผยว่า บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด ยึดหลักแนวคิด 4:4 ในการบริหารธุรกิจสู่ความสำเร็จ โดย 4 แรก เริ่มต้นจากปรัชญาแห่งชัยชนะของคน 4 กลุ่ม 1.ผู้บริโภคต้องได้รับผลประโยชน์สูงสุดในทุกมิติผ่านสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม 2.องค์กรต้องเติบโตและแข็งแรง ดำเนินธุรกิจตามแบบแผนแม่บทของบริษัท ปรับกลยุทธ์ให้มีความพร้อมและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม 3.นักธุรกิจต้องประสบความสำเร็จมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ระบบการบริหารจัดการและระบบการพัฒนาบุคลากรที่เป็นเลิศ และ 4.การสร้างคุณค่าร่วมให้กับสังคม ผ่านกิจกรรมการให้องค์ความรู้ด้านการศึกษา แก่ผู้สนใจและสถาบันการศึกษาต่างๆ การให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วยผู้ยากไร้และการบริจาคสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นแก่ถิ่นทุรกันดาร เป็นคุณค่าที่สำคัญสู่การยกระดับคุณภาพสังคม

สำหรับ 4 ที่ 2 นั้น คือ 4 ขั้นตอนสู่การประสบความสำเร็จ เริ่มจาก 1.การสร้างเสน่ห์ขององค์กรเพื่อทำให้ผู้คนเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้มากขึ้น 2.การรักษาคนที่เข้ามาอยู่ในองค์กร ให้มีความผูกพันและมีใจรักกันตลอดไป 3.การพัฒนาคนให้เติบโต มีรายได้และระดับความสำเร็จที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4.การมีความสุขในการอยู่ร่วมกัน เพื่อให้ผู้คนได้ทั้งความสุข เกียรติยศและความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน

คุณนพกฤษฏิ์ เปิดเผยว่า สำหรับแผนการพัฒนาในมิติต่างๆ ต่อจากนี้ เราจะเริ่มจาก 1.การยกระดับมาตรฐานการบริการให้ดีขึ้นเพื่อเติมเต็มและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภค 2.บริหารความคาดหวังของผู้คนและประสบการณ์จริงให้ลงตัว โดยการเน้นการสร้างความสำเร็จภายใต้กฎแห่งเหตุและผล 3.การจัดงาน Event Marketing ที่มีประสิทธิผล เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานเกิดความประทับใจ 4.ส่งเสริมและวางรากฐานวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแรง และ 5.เตรียมความพร้อมและรุกตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มกำลัง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,159 วันที่ 22 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559