มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ติวเข้มพัฒนาทักษะบุคลากร กว่า 4 หมื่นคน

23 ก.ค. 2565 | 20:04 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2565 | 03:19 น.

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดเต็มหลักสูตรอบรมแน่นกว่า 1,000 คอร์ส ให้พนักงานในเครือข่าย มากกว่า 40,000 คน หวังพัฒนาทักษะ มุ่งหน้าสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าสูงสุด

นายเออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์หลักของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลา 61 ปีที่ผ่านมา คือ การพัฒนาบุคลากร เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทั่วประเทศ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าชาวไทยผ่านเครือข่ายของผู้จำหน่ายกว่า 230 แห่งทั่วประเทศ โดยการจัดหลักสูตรฝึกอบรมทักษะเข้มข้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้แก่พนักงานในเครือข่ายโดยผู้เชี่ยวชาญ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการลูกค้า และสนับสนุนการพัฒนาทักษะของพนักงานผู้จำหน่ายผ่านการแข่งขันทักษะรถยนต์ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

 

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ก่อตั้งสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ด้วยงบกว่า 120 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 บนพื้นที่ 11 ไร่ ในจังหวัดปทุมธานี ทุก ๆ ปี ใช้งบประมาณโดยเฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อปี เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะของพนักงาน ผู้จำหน่าย โดยในปีที่ผ่านมา มีการจัดการอบรมไปแล้วมากกว่า 700 หลักสูตร และมีผู้เข้ารับการอบรมมากกว่า 40,000 คน

นายโคอิโตะ กล่าวว่า เแผนการขยายธุรกิจภายในประเทศ นอกจากการพัฒนาสมรรถนะและการอัปเกรดเทคโนโลยีของรถยนต์แล้ว บริษัทฯ จะยังคงพัฒนาบริการด้านการขาย และบริการหลังการขายเพื่อลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ติวเข้มพัฒนาทักษะบุคลากร กว่า 4 หมื่นคน

“ความพึงพอใจของลูกค้าถือเป็นหัวใจหลักที่จะนำพาเราไปสู่การเติบโตทางธุรกิจและประสบความสำเร็จ การบริการอย่างมืออาชีพโดยพนักงานผู้จำหน่ายที่ได้รับการอบรมทักษะเปรียบเสมือนหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของเราเช่นเดียวกัน หากลูกค้าพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงแค่รถยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการขายและบริการหลังการขาย เราก็จะได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากกลยุทธ์หลักในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า เราต้องยกระดับความพึงพอใจในทุกจุดที่มีการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าให้ครบทุกด้าน เริ่มต้นจากการสื่อสารที่จะทำให้ลูกค้าหันมาสนใจรถยนต์ของเรา และนำมาสู่การเยี่ยมชมรถยนต์ ณ โชว์รูมเครือข่ายผู้จำหน่าย การนำเสนอรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน รวมถึงความพึงพอใจในด้านการขายและการบริการหลังการขาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถยนต์ของเรา และเรายังคงมุ่งมั่นสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าผ่านการให้บริการจากเครือข่ายผู้จำหน่ายกว่า 230 แห่งในทุกจังหวัดทั่วประเทศ” นายโคอิโตะ กล่าว
 

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองโตเกียว ได้มองเห็นศักยภาพของสถาบันการศึกษาฯ ของประเทศไทย จึงได้ให้ประเทศไทยเป็นฐานการพัฒนาความรู้และทักษะให้กับพนักงานผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในภูมิภาคอาเซียน อาทิ เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยสำนักงานใหญ่ได้ทำการรับรองครูผู้สอนชาวไทยในการฝึกอบรมบุคลากรจากผู้จำหน่ายในต่างประเทศอีกด้วย

 

หลากหลายแนวคิดที่เป็นที่รู้จักกันดีถูกนำมาประยุกตใช้ในการออกแบบการเรียนการสอน และประเมินผลการฝึกอบรมที่สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนยังถูกปรับตามรูปแบบ ADDIE Model ซึ่งเป็นหลักการออกแบบกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาอย่างเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก อีกทั้งสถาบันการศึกษาฯ ยังได้นำแนวคิดไคเซ็น (Kaizen) ปรัชญาการพัฒนาธุรกิจจากญี่ปุ่นซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” มาปรับใช้อีกด้วย

 

นอกจากการพัฒนาบุคลากรผ่านการฝึกอบรมแล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังจัดการแข่งขันทักษะรถยนต์มิตซูบิชิขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเพิ่มพูนความสามารถของพนักงานจากเครือข่ายผู้จำหน่ายของบริษัทฯ โดยการแข่งขันในปีนี้ครอบคลุม 4 ประเภทสายงานบริการ ได้แก่ ที่ปรึกษาการขาย ที่ปรึกษางานบริการ ช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา ช่างเทคนิคซ่อมบำรุงตามระยะ และมีผู้เข้าแข่งขันมากกว่า 5,000 คนจากทั่วประเทศ จากการแข่งขันล่าสุด มีผู้ชนะ 12 คน หรือ 3 คนจากแต่ละสายงานบริการได้รับถ้วยรางวัล โดยผู้ชนะจากสาขาที่ปรึกษางานบริการ ช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา จะได้เป็นผู้แทนเข้าร่วมการแข่งขันทักษะด้านการบริการระดับโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี โดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น

 

การแข่งขันทักษะรถยนต์มิตซูบิชิ จัดมาแล้วมากกว่าสองทศวรรษ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาบุคลากรฝ่ายขายและศูนย์บริการ เพื่อสร้างแรงจูงใจและพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรมิตซูบิชิในการให้บริการลูกค้าของมิตซูบิชิที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากการให้บริการอย่างโดดเด่นแก่ลูกค้าผ่านพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดีแล้ว ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ผ่านจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของเราอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิด ‘Mitsubishi Motor-Ness’ อันได้แก่ ความปลอดภัย ความมั่นใจ และความสะดวกสบาย ในผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ โดยผลิตภัณฑ์รถยนต์ของเราได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากดีเอ็นเอของแชมป์แรลลี่ผู้ยิ่งใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ของมิซูบิชิ

 

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ปลูกฝังการพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพทั้งในด้านการขายและบริการหลังการขาย ซึ่งได้รับการ การันตีและยอมรับผ่านรางวัลความพึงพอใจสูงสุดทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย จากรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมประจำปี หรือ TAQA Award โดยผลการวิจัยล่าสุดของ TAQA เปิดเผยว่า เจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคล และรถกระบะขนาด 1 ตันในไทยยังคงชื่นชอบบริการด้านการขายของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยคะแนนความพึงพอใจด้านบริการงานขายรถใหม่ หรือ SSI (Sales Satisfaction Index) ประจำปี 2564 รวมแล้วอยู่ที่ 954 คะแนน สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล และคะแนนรวม 971 คะแนนสำหรับ รถกระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนระดับอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 920 และ 930 คะแนน นอกจากนี้ ผลการสำรวจของ Initial Quality Study (IQS) ยังพบว่า มิตซูบิชิ เอ็กแพนเดอร์, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต, มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ และ ซิงเกิ้ล แค็บ ยังได้รับการจัดอันดับสูงสุด โดยผลการสำรวจมาจากจำนวนปัญหาที่พบในช่วง 90 วันแรกของการซื้อรถยนต์