7 วิธีดูแลตัวเอง สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต้านภัยโควิด

14 ม.ค. 2565 | 17:03 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ม.ค. 2565 | 00:26 น.
1.4 k

พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย รพ.พญาไท2  อดีตรองนางสาวไทยอันดับ1 ปี 2552 ให้คำแนะนำ เรื่อง" 7 วิธีดูแลตัวเอง เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย "

สถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนต้องเผชิญกับเชื้อไวรัสร้ายอย่าง โควิด-19 ซึ่งยังมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทุกคนจึงจำเป็นต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรง เพื่อ สร้างภูมิคุ้มกัน ในการป้องกันเชื้อไวรัสร้ายนี้ได้ แต่จะต้องทำอย่างไรบ้าง พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี หรือ "หมอเพื่อน" ผู้อำนวยการ ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลพญาไท2 มีคำตอบมาฝาก เป็น 7 วิธีง่ายๆ ลองทำตามกันดูได้เลย

 

1.เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยวิตามินซี 500-2,000 มิลลิกรัมต่อวันโดยรับประทานหลังอาหารเช้าทันที เนื่องจากกรดแอสคอร์บิคในวิตามินอาจสร้างความระคายเคืองต่อกระเพาะได้ การรับประทานหลังอาหารก็จะลดการระคายเคือง และการทานในตอนเช้าก็จะช่วยให้ร่างกายขับวิตามินส่วนเกินออกทางน้ำและไตได้ดี ทำให้ไม่เกิดการสะสมนิ่วที่ไต

 

2.เพิ่มวิตามินดีให้ร่างกายด้วยการรับแสงแดดอ่อนตอนเช้าก่อน 9.00 น. หรือหลัง 16.00 น.แต่หลักการคือทายากันแดดที่ใบหน้าและคอได้ แต่อย่าทาที่ตัวเพราะจะทำให้การสังเคราะห์วิตามินดีน้อยลง หรือจะทานเสริมเป็นวิตามินดี3 ก็ให้รับประทาน 3,000-5,000 IU (international unit)

รับวิตามินดีจากแสงแดดอ่อนก่อน 9 โมงเช้า

3.สังกะสี (Zinc) เสริมภูมิคุมกันได้เช่นกัน เช่นสังกะสีในรูปคีเลตซิงค์ โดยรับประทาน 20-40 มิลลิกรัมต่อวัน ซิงค์ หรือ สังกะสี จะช่วยให้เซลล์ของเชื้อโควิด-19 เกาะติดเซลล์ร่างกายของเราได้น้อยลง ซึ่งก็จะทำให้โอกาสติดเชื้อน้อยลง

 

4.เพิ่มภูมิคุ้มกันในลำไส้ แบคทีเรียในลำไส้มีบทบาทสำคัญทำงานเชื่อมโยงกับภูมิคุ้มกันในปอด อาหารของแบคทีเรียดังกล่าว คือ พรีไบโอติก การทานผักผลไม้มากขึ้น สิ่งนี้จะเป็นอาหารให้กับแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ค่า pH ร่างกายของเรามีความเป็นด่าง และทำให้โควิดเข้าสู่เซลล์ร่างกายได้ยากขึ้น

รับประทานผักผลไม้และอาหารที่มีพรีไบโอติก

5.ลดการอักเสบของร่างกาย เพราะการอักเสบจะทำให้เราติดเชื้อไวรัสโควิดได้ง่ายขึ้น สิ่งที่ควรจะทำคือการหลีกเลี่ยงอาหารประเภทมันๆ อาหารทอด ปิ้ง ย่าง เพราะจะทำให้ร่างกายอักเสบเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ ควรเพิ่มการทานอาหารที่มีโอเมก้า3 เช่น น้ำมันปลา (fish oil) 1,000 มิลลิกรัม (ดูจากค่า EPA/DHA ให้ 2 ตัวนี้รวมกันแตะๆ 1,000 ก็แปลว่าประสิทธิภาพค่อนข้างจะสูง) ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบของร่างกายได้

6.ถ้ามีอาการแล้ว เช่น มีไข้ มีไอ หรือเจ็บคอ สิ่งที่ช่วยได้คือ NAC หรือ N-Acetylcysteine ที่มีฤทธิ์ในการละลายเสมหะ ต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยให้มีการเคลือบของเสมหะในปอดน้อยลง ลดการอักเสบในร่างกาย และเสริมภูมิคุ้มกัน รับประทาน 1 เม็ดตอนเช้า (600 มิลลิกรัม) และอีกเม็ดในตอนเย็น

 

7.สำคัญที่สุด คือร่างกายของเรามีค่า pH หรือค่าความเป็นกรดด่างของเลือดที่ 7.35-7.45 แต่ในเซลล์ของเรามีระดับกรดด่าง หรือ pH ค่อนข้างกว้างกว่าในเลือด เรามีหน้าที่ทำให้ค่า pH ในเซลล์มีความเป็นด่างให้มากที่สุด เพราะภาวะความเป็นด่างรอบเซลล์จะทำให้เชื้อโควิดเข้าเซลล์ของเราได้ยาก หลีกเลี่ยงอะไรก็ตามที่จะทำให้ร่างกายมีค่าความเป็นกรด เช่น น้ำหวาน ผลไม้หวาน เบอเกอรี่ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งเนื้อสัตว์ใหญ่

ดื่มน้ำให้พอเพียง

นอกจากนี้ ให้ดื่มน้ำอุ่น ดื่มน้ำวันละ 2-2.5 ลิตร หรือน้ำแร่ น้ำผัก ที่มีภาวะเป็นด่าง พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างน้อย 60 นาที ต่อสัปดาห์ และหากถึง 150 นาทีต่อสัปดาห์ ก็จะยิ่งเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายได้มาก

 

อย่าลืมว่า ยาที่ดีที่สุด ภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดเริ่มต้นที่เราเอง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลพญาไท