ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมทบ 40 ล้านหนุนพัฒนาวัคซีน ChulaCov19

20 ธ.ค. 2564 | 14:01 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ธ.ค. 2564 | 21:10 น.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมทบทุน 40 ล้านบาท สนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 โดยคนไทย แก่โครงการพัฒนาวัคซีนใบยา และ ChulaCov19

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การศึกษาค้นคว้าและผลิตวัคซีนที่เป็นของคนไทยเอง นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของ COVID-19 แล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการคิดค้นนวัตกรรมด้านการสาธารณสุขของคนไทย รวมทั้งช่วยประหยัดงบประมาณในการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศในอนาคต

ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมทบ 40 ล้านหนุนพัฒนาวัคซีน ChulaCov19

ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนและสังคม ภายใต้วิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” โดยร่วมบริจาคเงินรวม 40 ล้านบาท แก่โครงการพัฒนาวัคซีนใบยา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ โครงการพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อการพัฒนาวัคซีนของคนไทยซึ่งต้องการทุนสนับสนุนการวิจัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมโดยคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสังคมและประเทศไทยในระยะยาว

นายมกร พงษ์ธนพฤกษ์ กรรมการมูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ กล่าวว่า วัคซีนจุฬาฯ-ใบยา ผลงานจากบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด เป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด protein subunit vaccine จากใบยาสูบที่วิจัยและพัฒนาได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดย รศ.ดร.วรัญญู พูลเจริญ และ ผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

ซึ่งได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ให้ผลิตวัคซีนตามมาตรฐานการผลิตเพื่อทำการทดสอบในมนุษย์ โดยทำการผลิตส่วนต้นน้ำ ที่โรงงานต้นแบบการผลิตยาชีววัตถุและวัคซีนด้วยพืช ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  และส่งต่อไปทำให้โปรตีนบริสุทธิ์ ไปยังบริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด 

จากนั้นนำไปผสมและบรรจุขวด ที่สถานเสาวภา สภากาชาดไทย โดยวัคซีนดังกล่าวอยู่ระหว่างการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 1 ซึ่งเริ่มเปิดรับอาสาสมัครตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้อาสาสมัครทั้งหมดได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นวัคซีนดังกล่าวมีผลความปลอดภัยเป็นที่น่าพอใจและอยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม ระหว่างนี้พร้อมเดินหน้าวิจัยวัคซีนรุ่นต่อไปทันทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์อีกด้วย

 

รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า วัคซีน ChulaCov19 เป็นวัคซีนชนิด mRNA สัญชาติไทย ซึ่งได้มีการทดสอบในอาสาสมัครระยะที่หนึ่งและระยะที่สอง พบว่าวัคซีนอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในมนุษย์ได้สูงมากและสูงใกล้เคียงกับวัคซีน Pfizer/BNT และเมื่อเปรียบเทียบกับวัคซีนอื่น พบว่ามีความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงกว่าวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac ด้วย  

ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมทบ 40 ล้านหนุนพัฒนาวัคซีน ChulaCov19

จุดเด่นของ วัคซีน ChulaCov19 mRNA นี้คือ ความสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงมากต่อเชื้อดั้งเดิมและสูงพอที่จะยับยั้งไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทั้งสี่สายพันธุ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือ แอลฟา (Alpha), เบตา (Beta), แกมมา (Gamma), และเดลตา (Delta) ขณะนี้ทางศูนย์วิจัยวัคซีน ร่วมมือกับบริษัทไบโอเนท เอเชีย เพื่อดำเนินการกระบวนการผลิตวัคซีนจำนวน 30,000 โดส ในประเทศไทย สำหรับเพื่อใช้ทดสอบในอาสาสมัครระยะที่สาม ซึ่งผลิตและบรรจุขวดเรียบร้อยแล้ว กำลังทำการตรวจทดสอบคุณสมบัติและมาตรฐานของวัคซีน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพของวัคซีนได้มาตรฐานที่กำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และมาตรฐานสากล และดำเนินการเตรียมขออนุมัติสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อใช้ในการทดสอบในอาสาสมัครระยะที่สามประมาณ 3,750 คน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณเดือนมกราคม 2565 

 

หากผลการทดสอบในระยะสามนี้ยืนยันว่าวัคซีนมีความปลอดภัยและสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงไม่ด้อยกว่าของบริษัท Pfizer คณะวิจัยและพัฒนาจะดำเนินการเพื่อขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำหรับการใช้กับประชาชนในภาวะฉุกเฉินต่อไป ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ร่วมสนับสนุนทุนวิจัยในครั้งนี้ เพื่อคิดค้นและพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป

 

ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ และมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการสมทบทุนผ่านโรงพยาบาล องค์กร หน่วยงาน และมูลนิธิต่างๆ ต่อเนื่องเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการแพร่ระบาด COVID-19 กว่า 112 ล้านบาท ในปี 2564 เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบ หวังเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนจากสถานการณ์ของ COVID-19 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย