นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงบทความจากนิตยสาร The Economist เรื่อง "Why is Thai health care so good?" ซึ่งยกย่องระบบสาธารณสุขของประเทศไทยว่าเป็นหนึ่งในระบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก โดยระบุว่าความสำเร็จนี้มีรากฐานจากโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ "30 บาทรักษาทุกโรค" ที่เริ่มขึ้นในปี 2545
บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าคนไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใกล้เคียงกับชาวอเมริกันและยุโรป อีกทั้งประเทศไทยยังประสบความสำเร็จในการให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพแก่ประชากรกว่า 99.5% แม้ว่ารายได้ต่อหัวของคนไทยจะต่ำกว่าคนอเมริกันถึง 11 เท่า
โดยระบบหลักประกันสุขภาพนี้เน้นการดูแลผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบแรงงานอย่างทั่วถึง ด้วยค่ารักษาเพียง 30 บาท ซึ่งช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของทารกลงอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ โครงการยังครอบคลุมการรักษาโรคหลากหลาย ตั้งแต่โรคเอดส์ (HIV/AIDS) ไปจนถึงโรคไต ซึ่งเพิ่มความนิยมให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร อย่างมาก ระบบนี้ได้รับเงินทุนจากภาษี และยังคงมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในปัจจุบันมีหลายประเทศ เช่น ซาอุดีอาระเบีย ที่แสดงความสนใจและลงนามความร่วมมือด้านสาธารณสุขกับไทย รวมถึงมีการเจรจาความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการสูงวัยของประชากรไทยซึ่งมากกว่า 1 ใน 5 ของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ยังคงเป็นความท้าทายที่ต้องเผชิญ รัฐบาลจึงได้พยายามเพิ่มจำนวนแพทย์ในภาครัฐและพัฒนานโยบายด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุเพิ่มเติม แต่ถึงกระนั้น ระบบสาธารณสุขของไทยยังคงเป็นตัวอย่างที่น่าศึกษาสำหรับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
ที่มา