11 มิถุนายน 2567 ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขส่วนกลางและส่วนภูมิภาคนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2567 ได้กำชับการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567 ให้เร่งรัดการยกระดับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลชัยพัฒน์ และหน่วยบริการปฐมภูมิ 72 แห่ง
รวมถึงขอให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดให้การสนับสนุนโครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกัน อัมพาต ครั้งที่ 10 เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ การแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งรัดของรัฐบาลให้ทุกจังหวัดเน้นการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการด้วยกลไกคณะกรรมการระดับจังหวัด
ตามแนวทาง Patient Journey นำข้อมูลจาก Dash Board ไปใช้ประโยชน์และสื่อสารให้ถึงระดับผู้ปฏิบัติการยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ให้จังหวัดที่มีความพร้อมดำเนินการในระดับจังหวัดได้ทันที โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ด้วย
นอกจากนี้ได้ให้แนวทางการป้องกันและจัดการความรุนแรงในโรงพยาบาลโดยประกาศเป็นนโยบายพร้อมทบทวนแผนให้เป็นปัจจุบัน และสื่อสารถึงบุคลากรทุกคนในหน่วยงานให้เกิดความเข้าใจสามารถปฏิบัติตามได้ถูกต้องและฝึกซ้อมแผนเป็นระยะ, จัดระบบความปลอดภัยในโรงพยาบาล อาคาร หอผู้ป่วย ห้องฉุกเฉิน สื่อสารให้ประชาชนหรือผู้รับบริการทราบ
จัดระบบเตือนภัยและกล้องวงจรปิดในบริเวณที่มีความเสี่ยง และมีระบบรายงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อให้เกิดการจัดการที่เหมาะสม สามารถพัฒนาระบบต่อไปได้ และจัดระบบการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาเจ้าหน้าที่และผู้ได้รับผลกระทบหลังเกิดเหตุการณ์
สำหรับการประชุมสัญจรครั้งนี้ผู้บริหารที่เข้าร่วมประชุมได้มีโอกาสศึกษาดูงานใน 3 ประเด็นสำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช คือ
1.การพัฒนาระบบบริการ ได้แก่ การใช้ AI ในการเอกซ์เรย์ปอด ตรวจจอประสาทตา เขียนผลการตรวจของแพทย์, ศูนย์โรคหัวใจครบวงจร, ศูนย์โรคมะเร็ง ที่ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
2.Smart Environment ปรับภูมิทัศน์โรงพยาบาลให้ทันสมัยเอื้อต่อการจัดบริการประชาชน ที่ โรงพยาบาลขนอม
3.Smart Hospital นำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการระบบบริการ และอำนวยความสะดวกบุคลากรในการทำงานที่ โรงพยาบาลพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขและนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมตามบริบทของแต่ละโรงพยาบาลให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนที่เข้ารับบริการ