WHO ประกาศให้ "ความเหงา" เป็นภัยคุกคามสุขภาพทั่วโลกเร่งด่วน

21 พ.ย. 2566 | 11:05 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2566 | 11:09 น.
998

องค์การอนามัยโลกประกาศให้ "ความเหงา" เป็นภัยคุกคามสุขภาพทั่วโลกเร่งด่วน อันตรายต่อสุขภาพเทียบเท่าได้กับการสูบบุหรี่วันละ 15 มวน ตั้งคณะทำงานนานาชาติปฏิบัติงานเป็นเวลา 3 ปี 

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ตั้งคณะกรรมาธิการนานาชาติเกี่ยวกับปัญหา "ความเหงา" นำโดย นพ.วิเวก มูรธี ศัลยแพทย์ใหญ่สหรัฐฯ และชิโด เอ็มเปมบา ทูตด้านเยาวชนของสหภาพแอฟริกา รวมถึงนักเคลื่อนไหวและรัฐมนตรีอีก 11 คน เช่น ราล์ฟ เรเกนวานู รัฐมนตรีกระทรวงการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของวานูอาตู และอายูโกะ คาโต้ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบมาตรการเกี่ยวกับความเหงาและการแยกตัวจากสังคมของญี่ปุ่น

การตั้งคณะกรรมาธิการนี้มีขึ้นหลังจากที่การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมหยุดชะงักส่งผลให้ระดับความเหงาเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงกระแสตื่นตัวที่เกิดขึ้นใหม่เกี่ยวกับความสำคัญของปัญหาดังกล่าว โดยคณะกรรมาธิการชุดนี้จะปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 3 ปี

"ความเหงากำลังกลายเป็นข้อกังวลด้านสาธารณสุขระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ และการพัฒนาในทุกด้าน ความโดดเดี่ยวทางสังคมไม่มีอายุหรือขอบเขต ความเสี่ยงด้านสุขภาพนั้นแย่พอ ๆ กับการสูบบุหรี่มากถึง 15 มวนต่อวัน และมากกว่าความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนและการไม่ออกกำลังกายอีกด้วย" นพ.วิเวก เมอร์ธี กล่าว

ในผู้สูงอายุ ความเหงามีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่จะพัฒนาภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น 50% และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมอง 30% นอกจากนี้ความเหงายังบั่นทอนชีวิตของคนหนุ่มสาวอีกด้วย

งานวิจัยเมื่อปี 2022 ระบุว่า วัยรุ่น 5 – 15% มีภาวะเหงา ซึ่งตัวเลขมีแนวโน้มว่าจะถูกประเมินต่ำไป ขณะที่ในแอฟริกามีวัยรุ่น 12.7% เผชิญกับความเหงา เทียบกับ 5.3% ในยุโรป

ในขณะที่คนหนุ่มสาวที่ประสบปัญหาความเหงาที่โรงเรียนมีแนวโน้มที่จะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยมากกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ความเหงายังส่งผลไปสู่ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่แย่ลง ความรู้สึกแปลกแยก และไม่ได้รับการสนับสนุนในงานอาจทำให้ความพึงพอใจและประสิทธิภาพในการทำงานแย่ลง