"ชลน่าน" ประกาศ Quick Win จ่อคืนบางส่วน "กัญชา" เป็นยาเสพติด

24 ก.ย. 2566 | 12:30 น.

"ชลน่าน" รมว.สาธารณสุข เตรียมรื้อ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ของภูมิใจไทย ส่อตัดประเด็นให้สิทธิปลูกกัญชาบ้านละ 15 ต้น พร้อมสกัดใช้เพื่อสันทนาการ ยัน ต้องปิดช่องโหว่ใช้กัญชาในทางที่ผิดให้ได้

เดินหน้านโยบายกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมผลักดันร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่ทางพรรคภูมิใจไทยประกาศผลักดันร่างเดิม 94 มาตราว่า การเสนอกฎหมายเป็นสิทธิของสส.ที่เข้าชื่อกัน 20 คนก็สามารถเสนอได้ โดยทางสภาจะพิจารณาอย่างไรก็เป็นไปตามเสียงข้างมากซึ่งถ้าสอดรับกับนโยบายรัฐบาล ส่วนใหญ่กฎหมายก็จะถูกขับเคลื่อนตามกลไกรัฐสภาต่อไปยังวุฒิสภาตามขั้นตอน

ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็สามารถให้สมาชิกเสนอกฎหมายได้ โดยในฐานะพรรคแกนนำก็จะเข้าไปดูเพราะมีความจำเป็นที่ต้องมีกฎหมายออกมารองรับ กำกับ และควบคุมการใช้กัญชาในขณะนี้

ส่วนใช้อย่างไรนั้นจะยึดตามนโยบายของรัฐบาลเป็นหลักว่า เพื่อการแพทย์และสุขภาพ ส่วนอย่างอื่นที่นอกเหนือจากนี้ คือ นอกเหนือจากนโยบายการเอาไปใช้สันทนาการ หรือใช้ผิดประเภทถือว่า นอกเหนือจากนโยบายรัฐบาลต้องมีกฎหมายมารองรับว่า ไม่ชอบอย่างไร

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะเสนอร่างกฎหมายของพรรคหรือใช้ร่างในนามของรัฐบาลนั้น นพ.ชลน่าน ระบุว่า ต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้งหากเป็นไปได้ก็จะเสนอเป็นร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะถือเป็นความร่วมมือในเชิงนโยบายที่เราพูดคุยกันจบแล้ว โดยอาจจะหยิบเอาร่างเดิมนั้นมาดูว่า อะไรเป็นส่วนที่ดี อะไรที่จะเติมเต็ม แทนที่จะเขียนร่างใหม่ก็เอาร่างนั้นมาปรับแก้

ส่วนที่ภูมิใจไทยเสนอ 94 มาตราเลยนั้นเป็นสิทธิที่ทำได้ ส่วนเสนอเข้าสภาแล้วจะเอาทั้ง  94 มาตราหรือไม่ หรือเอามาบางส่วนก็แล้วแต่สภาซึ่งรัฐบาลมีการพูดคุยกันอยู่แล้วภูมิใจไทยเองก็ยืนยันว่า ไม่เคยให้ กัญชา เป็นสันทนาการ 

อย่างไรก็ดี ต้องมีวิธีการใช้ว่า จะใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ ใช้อย่างไร มีกระบวนการควบคุมกำกับอย่างไร หากใช้ประเภทอื่นถือว่า ผิดวัตถุประสงค์ของกฎหมาย จะดูว่า มีข้อห้ามอย่างไร

รวมทั้งการกำหนดว่า กัญชาจะเป็นยาเสพติดได้เมื่อไร ความหมาย คือ ประมวลกฎหมายยาเสพติด เอาชื่อกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 5 แต่ไม่ได้บอกว่า กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด เพียงแต่บอกว่า ถ้าจะกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้ไปกำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) 

ดังนั้น กัญชายังเป็นยาเสพติดอยู่ในความหมาย ยังมีสารเสพติดอยู่ ขณะนี้ประกาศนี้เขียนเฉพาะสารสกัด THC มากกว่า 0.2% ถือเป็นยาเสพติด นอกนั้นไม่เป็น พอไม่เป็น ทุกคนก็เอาไปใช้ลักษณะผิดประเภท เช่น เอาช่อดอกไปเสพ เอาใบไปพี้ พันลำ เป็นการใช้ที่มีผลต่อจิตประสาท ถือว่าเป็นการใช้ไม่ถูกต้อง ก็ต้องดูว่าปรับอย่างไร

ส่วนในร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข จะมีการเพิ่มเติมข้อกำหนดให้บางส่วนของกัญชาให้เป็นยาเสพติดหรือไม่นั้น กำลังจะพิจารณากันว่า อันไหนเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม แต่ไม่น่าจะกลับไปเป็นยาเสพติดทั้งหมด เพราะกัญชาเพื่อสุขภาพนั้น หากไปยึดแบบเดิมจะแข็งเกินไป แค่มีกัญชา 1 ต้นอยู่ในบ้านก็ถูกจับแล้ว ประชาชนเดือดร้อน

ดังนั้น ต้องออกกฎหมายมาในลักษณะที่ทุกฝ่ายไม่เสียประโยชน์และเป็นโทษต่อเพื่อนมนุษย์ ทุกฝ่ายต้องได้ประโยชน์จากการใช้ กัญชาเพื่อสุขภาพและการแพทย์ เพื่อสุขภาพ เช่น อาหารที่ผสม CBD ซึ่งได้ประโยชน์ แต่ถ้าออกกฎหมายที่เข้มเกินไปโดยไม่ดูบริบทของการใช้ก็จะส่งผลกระทบ ขณะนี้มีการริเริ่มปลูกกัญชาไปใช้ในเชิงพาณิชย์จำนวนมากซึ่งพาณิชย์ที่ไม่เกี่ยวกับสุขภาพก็ถือว่า นอกเหนือจากเรา 

สำหรับการผลักดันกฎหมายในยุคนี้นั้นจะเน้นเพื่อปิดจุดอ่อนให้มากที่สุดเพราะการที่สมาชิกสภาฯ อภิปรายและไม่ให้กฎหมายนี้ผ่าน เนื่องจากยังมีช่องว่างถ้าปล่อยออกไปจะเหมือนไปส่งเสริม เช่น ปลูกกันมากขึ้น ปลูก 15 ต้น การเข้าถึงมากขึ้น ถ้าไม่มีกฎหมายควบคุมที่ดีก็จะเกิดโทษ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เป็นหน้าที่ของเราจะมีการฟอร์มทีม และแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้ามาดูแลซึ่งเป็นไปตามโครงสร้าง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการวางตัวใครมาดูแลเป็นพิเศษ