"มายบาซิน"ปรับกลยุทธ์ชดันนวัตกรรมเจาะคนรุ่นใหม่ มุ่งตอบโจทย์สุขภาพ

22 ส.ค. 2566 | 10:08 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ส.ค. 2566 | 10:09 น.

"มายบาซิน"ปรับกลยุทธ์ดันนวัตกรรมเจาะคนรุ่นใหม่ มุ่งตอบโจทย์สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ เผยจุดเด่นเป็นสูตรปราศจากน้ำตาลลดปัญหาสุขภาพช่องปาก และไม่ก่อให้เกิดฟันผุ เดินหน้ารุกทำตลาดทุกช่องทาง

นายชนวิน เต็งอำนวย ผู้ช่วยรองกรรมการผู้จัดการ (ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด) บริษัท เกร๊ทเตอร์ มายบาซิน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการปรับกลยุทธ์การทำตลาด เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบเม็ดอมซิงค์ พลัส โดยมุ่งขยายตลาดไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และเสาะหาผลิตภัณฑ์ หรือไอเทมที่ตอบโจทย์กับตรงกับไลฟ์สไตล์

สำหรับช่วงโควิดที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นไอเทมสำคัญที่ต้องมีติดบ้านโดยยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด ดังนั้น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่จึงเป็นการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ยิ่งขึ้น 

โดยมีผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รสชาติที่มาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของ Gen ใหม่ กับเกร๊ทเตอร์ มายเซพติค มายบาซิน เม็ดอมซิงค์ พลัสวิตามินซีและโคคิวเทน กลิ่นองุ่น มะนาว 

ซึ่งทั้ง 2 สูตร เป็นสูตรปราศจากน้ำตาล (Sugar free) ช่วยลดปัญหาสุขภาพช่องปาก และไม่ก่อให้เกิดฟันผุ

\"มายบาซิน\"ปรับกลยุทธ์ชดันนวัตกรรมเจาะคนรุ่นใหม่ มุ่งตอบโจทย์สุขภาพ

นายชนวิน กล่าวอีกว่า ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ มีกิจกรรมที่กล้าแสดงออกมากขึ้น  กิจกรรมที่ใช้สายตามากขึ้นกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการเรียนผ่านทางออนไลน์ การพักผ่อนยามว่างกับซีรียส์ติดเทรนด์ และเกมออนไลน์กับเพื่อนในคอมมูนิตี้

และที่สำคัญ คือ  การมองหาผลิตภัณฑ์ที่อินเทรนด์ บริษัทจึงได้ได้แรงบันดาลใจ ออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้ต่อยอดจากเม็ดอมซิงค์ ที่เป็น Unique Selling Point รวมกับนวัตกรรมการดูแลสุขภาพ   เพิ่มประโยชน์ของวิตามินหลากหลายชนิดจนได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รสชาติดังกล่าว และการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีคาแรกเตอร์แตกต่างกันในแต่ละรสชาติ

นายศุภโชติ  วิเศษแก้ว ผู้จัดการผลิตภัณฑ์แผนกสินค้าอุปโภคและบริโภค กล่าวว่า เม็ดอม มายบาซิน ซิงค์  จัดอยู่ในกลุ่มของลูกอมที่มีมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท โดยตลาดดังกล่าวจะแบ่งเป็น ลูกอมแบบแข็ง, ลูกอมอัดเม็ด, เยลลี่, ลูกอมแบบนิ่ม, โลลี่ป๊อบ และมาร์ชเมลโล่ 

สำหรับโจทย์ที่ท้าทาย ก็คือการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเดิมและขยายฐานใหม่ โดยหวังว่าการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะเพิ่มยอดการเติบโตโดยรวมของบริษัทได้ถึง 30% เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งแบรนด์จะทุ่มงบกิจกรรมการตลาด และทำตลาดผ่านทุกแพลตฟอร์ม ทั้งในส่วนของออฟไลน์ ออนไลน์ และออนกราวด์  

โดยจะเห็นผลิตภัณฑ์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มออนไลน์  อินฟลูเอนเซอร์ และยังมีการสร้างกระแสอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างครีเอทีฟคอนเทนต์ต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์  และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน 

นอกจากนี้ ยังใช้กลยุทธ์การทำตลาดผ่านพรีเซนเตอร์ โดยเลือกไบร์ท วชิรวิชญ์  ชีวอารี เป็นตัวแทนในการเข้าถึง GenZ