การฉีดวัคซีนเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยในการป้องันโรคภัยไข้เจ็บที่ยังมาไม่ถึง โดยมีเกณฑ์ในการฉีดตามอายุ และตามสถานการร์
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" จะพาไปทำความรู้จักกับวัคซีนที่วัยรุ่นควรจะต้องฉีด จะมีชนิดไหนบ้าง ฉีดอย่างไร มาติดตามกัน
วัคซีนตับอักเสบบี
- ฉีด 3 เข็ม (ผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีน)
- ระยะห่าง: 0, 1 และ 6 เดือน
- หากเคยฉีดแต่ไม่ครบ 3 เข็ม ให้ฉีดต่อโดยเร็วที่สุด
วัคซีนตับอักเสบเอ
- ชนิดฉีด 1 เข็ม (วัคซีนชนิดเชื้อเป็น)
- ชนิดฉีด 2 เข็ม (วัคซีนชนิดเชื้อตาย)
- ระยะห่าง : 6-12 เดือน
วัคซีนเอชพีวี
- ฉีดในวัยรุ่น อายุ 9-26 ปี 3 เข็ม
- หากเข็มแรกฉีดก่อนอายุ 15 ปี 2 เข็ม
- ระยะห่าง : ขึ้นอยู่กับวัคซีนแต่ละยี่ห้อ
วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม
- ฉีด : 2 เข็ม (ผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีน)
- ระยะห่าง : อย่างน้อย 4 สัปดาห์
วัคซีนอีสุกอีใส
- ฉีด : 2 เข็ม
- ระยะห่าง : อย่างน้อย 3 เดือน (ถ้าอายุมากกว่า 13 ปี ฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 28 วัน)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่
- มี 2 ชนิด คือ วัคซีนชนิด 3 และ 4 สายพันธุ์
- แนะนำฉีดวัคซีนในวัยรุ่นทุกปี
- ระยะห่าง : ปีละ 1 เข็ม
วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี
- ฉีด : 2 เข็ม
- ระยะห่าง : อย่างน้อย 3-12 เดือน ขึ้นกับชนิดของวัคซีน อาจฉีดกระตุ้นทุก 4-5 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับสูงพอ
วัคซีนโรคคอตีบบาดทะยัก ไอกรน
- กระตุ้นเมื่ออายุ 11-12 ปี
- หลังจากนั้นกระตุ้นด้วย วัคซีนโรคคอตีบ-บาดทะยัก
- ระยะห่าง: ทุก 10 ปี
วัคซีนไข้เลือดออก
- ฉีด : 3 เข็ม (ผู้มีอายุ 9-45 ปี)
- ระยะห่าง : แต่ละเข็มห่างกัน 6 เดือน สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ 5-6 ปี นับจากวันที่ได้รับวัคซีนเข็มแรก
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข