กรมแพทย์แผนไทยฯ ย้ำจุดยืนไม่สนับสนุน “กัญชา” สันทนาการ

19 เม.ย. 2566 | 17:44 น.
อัปเดตล่าสุด :19 เม.ย. 2566 | 18:40 น.

กรมแพทย์แผนไทยฯ แสดงจุดยืนรับวันกัญชาโลก ย้ำชัด กัญชาควรใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ไม่สนับสนุนหรือมุ่งเน้นเชิงสันทนาการ หนุนบังคับใช้กฎหมายสมุนไพรควบคุม คุมช่อดอกกัญชา

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกแสดงทัศนะ เนื่องในวันกัญชาโลก  ย้ำประชาชนควรใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ เพื่อใช้รักษาโรคอย่างมีคุณภาพ และมาตรฐาน พร้อมสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องตามมาตรการควบคุมช่อดอกกัญชา


นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่าเนื่องในวันกัญชาโลก  20 เมษายนนี้ กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกยังคงขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการรักษา  เป็นทางเลือกในการดูแลผู้ป่วยด้วยพื้นฐานจากภูมิปัญญาไทยมาบูรณาการการรักษาผู้ป่วยและประชาชนร่วมกับสหวิชาชีพ

 

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2562 – ปัจจุบัน มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยตำรับยากัญชาทางการแพทย์รวมกว่า 79,423 ราย รักษาในกลุ่มอาการนอนไม่หลับ จำนวน 197,516 ครั้ง อาการปวดตามร่างกาย (ปวดขา ปวดเข่า ปวดบ่า ปวดไหล่) 18,179 ครั้ง อาการปวดหลัง 9,558 ครั้ง อาการลมปะกัง หรือ ลมตะกัง 8,659 ครั้ง และอาการอื่นๆ อาทิ อาการสันนิบาตลูกนก (โรคพาร์กินสัน) ลมจับโปงแห้งเข่า ปวดศีรษะ อาการชา รวม 14,131 ครั้ง 

 

นอกจากนี้ยังมีการจัดทำแนวทางการนำกัญชาทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมาบูรณาการในระบบบริการสุขภาพ มี 4 แนวทาง คือ 1) แนวทางการดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรคมะเร็งและผู้ป่วยระยะประคับประคอง (Palliative care) 2) แนวทางการดูแลกลุ่มผู้ป่วยระยะกลาง (Intermediate care) 3) การดูแลผู้ป่วยโรคพาร์กินสันด้วยกัญชาทางการแพทย์แผนไทย 4) การดูแลผู้ป่วยด้วยการแพทย์แผนไทยในหน่วยบริการปฐมภูมิ (Primary Care Cluster) 

 

ที่ผ่านมา กัญชา มีการใช้ในชุมชน พื้นบ้านในทุกภาคของประเทศ จากการถอดองค์ความรู้การใช้กัญชาของชาวบ้านทั้ง 4 ภูมิภาค พบว่า มีการใช้ในวิถีชีวิต เป็นอาหาร ยา เครื่องนุ่มห่ม เครื่องสำอาง ซึ่งกัญชาเป็นพืชที่มีการปลูกและใช้ต่อเนื่องกันมาแม้ในช่วงที่ยังเป็นยาเสพติด และชาวบ้านมักจะใช้ต้นกัญชาที่ปลูกเองเพื่อจะได้เก็บเมล็ดพันธุ์ปลูกในรอบต่อๆไป ปลูกน้อยแค่พอใช้ เช่น 2-3 ต้น ในแต่ละรุ่นปลูกไว้หลังบ้านหรือที่นา ไม่ได้เลือกต้นตัวผู้หรือตัวเมีย และจะไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีกำจัดแมลง 

 

ดังนั้นจึงยืนยันได้ว่ากัญชานั้นสามารถนำมาใช้ในวิถีชีวิตได้ เพียงแต่ในปัจจุบันเราไม่ส่งเสริมในเชิงสันทนาการ แต่เอาประโยชน์จากคุณค่าของกัญชามาทำเป็นยาเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสในการเข้าถึงยา และใช้ยาจากภูมิปัญญาได้อย่างปลอดภัย

 

ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ทางกรมฯร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินหน้าบังคับใช้กฎหมาย และ ดำเนินคดีผู้กระทำผิด ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และ ส่วนภูมิภาค สำหรับในเขตกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่ 10 เขต รวมจับ ปรับ ดำเนินคดี 15 ราย ผิดเงื่อนไขใบอนุญาตฯ สั่งพักใช้ใบอนุญาต 4 ราย กรณีไม่พบผู้กระทำความผิด 8 ราย สำหรับส่วนภูมิภาค 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ , ปทุมธานี , ชลบุรี (พัทยา), สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะเต่า) ,ตราด (เกาะช้าง), ภูเก็ต (สภ.ป่าตอง/สภ.กะรน/สภ.วิชิต/สภ.ฉลอง ซอยใสยวน อ่าวฉลอง /ซอยบางลาง ป่าตอง) , นนทบุรี (กรณีร้องเรียน ตลาดนกฮูก) รวม จับ ปรับ ดำเนินคดี 25 ราย ผิดเงื่อนไขใบอนุญาตฯ ตักเตือน สั่งพักใช้ใบอนุญาต 6 ราย กรณีไม่พบผู้กระทำความผิด 20 ราย สำหรับผู้ฝ่าฝืนหรือกระทำความผิด ต้องมีโทษตามกฎหมาย 

 

ปัจจุบันมีสถานประกอบการจำหน่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ยื่นขออนุญาตเพื่อจำหน่ายหรือแปรรูป ส่งออก ศึกษาวิจัย ทั้งเขตกรุงเทพมหานคร และอีก 76 จังหวัด ทั่วประเทศ ในเขตกรุงเทพมหานคร ได้ยื่นคำขอ จำนวน 2,260 คำขอ ออกใบอนุญาต 1,862 ราย คิดเป็นร้อยละ 82.68% สำหรับพื้นที่ส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด ได้ยื่นคำขอ จำนวน 8,986 คำขอ ออกใบอนุญาต 6,679 ราย คิดเป็น 74.32% 

 

นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารชัดเจนว่า ห้ามจำหน่ายให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตร ห้ามจำหน่ายให้กับนักเรียน นิสิต หรือ นักศึกษา ห้ามให้บริการสูบกัญชาในสถานประกอบการทั่วไป ห้ามจำหน่ายเพื่อการค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ห้ามโฆษณากัญชาในทุกช่องทางเพื่อการค้า และห้ามสูบกัญชาในสถานที่ต้องห้าม เช่น วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก เป็นต้น การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 46 กรณีจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม โดยมิได้รับอนุญาต มีบทกำหนดโทษเป็นไปตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ระบุโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ