รู้จัก"โรคกรดไหลย้อน" สาเหตุอาการ-วิธีรักษามีกี่แบบ เช็คที่นี่

08 เม.ย. 2566 | 15:07 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2566 | 22:08 น.

"โรคกรดไหลย้อน" มีสาเหตุมาจากอะไร อาการแบบไหนที่เข้าข่ายของโรค พร้อมเช็คแนวทางการรักษาว่ามีกี่รูปแบบ กินยา หรือ ต้องผ่าตัด ตรวจสอบข้อมูลที่นี่

วันที่ 8 เมษายน 2566 ผศ. (พิเศษ) นพ.ปิยะพันธ์ พฤกษพานิช  สาขาวิชาโรคทางเดินอาหาร ฝ่ายอายุรศาสตร์​ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวโรคกรดไหลย้อน ระบุว่า กรดไหลย้อนอาจไม่จบที่หลอดอาหารแต่ไปถึงลำคอ และ กล่องเสียง โดยได้อธิบายถึงอาการของโรค สาเหตุที่มาที่ไป รวมถึงวิธีการรักษาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเนื้อหารายละเอียดทั้งหมดจะมีอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้ดังต่อไปนี้


รู้จักโรคกรดไหลย้อน

  • โรคกรดไหลย้อน คือ ภาวะที่ของเหลวจากกระเพาะอาหารไหลย้อนผ่านหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างเข้ามาในหลอดอาหาร โดยมีความถี่และความรุนแรงในระดับที่รบกวนคุณภาพชีวิต 

สาเหตุของโรคกรดไหลย้อน

  • มักพบในคนที่หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างไม่แข็งแรง คนอ้วนลงพุง หญิงตั้งครรภ์ 
  • พฤติกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เช่น การรับประทานอิ่มเกินไป การใส่เสื้อผ้าที่รัดหรือคับ การก้มตัวหรือเบ่งท้อง การเอนนอนหลังมื้ออาหาร 
  • การรับประทานอาหารบางชนิด เช่น อาหารไขมันสูง อาหารรสจัด ชา กาแฟ 
  • นอกจากนี้ ยังอาจพบร่วมกับภาวะการบีบตัวของหลอดอาหารผิดปกติและภาวะน้ำลายน้อย

สาเหตุของโรคกรดไหลย้อน

อาการของโรคกรดไหลย้อน

1. อาการของหลอดอาหาร

  • แสบร้อนหรือจุกแน่นกลางหน้าอก
  • เรอเปรี้ยว มีอาหารย้อนขึ้นลำคอ มักเป็นหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ

2. อาการอื่น ๆ 

  • ไอเรื้อรัง
  • กล่องเสียงอักเสบ เสียงแหบเรื้อรัง คอแห้ง แสบคอ
  • รู้สึกมีก้อนจุกในลำคอ  มีเสมหะติดคอตลอดเวลา
  • หอบหืด
  • ฟันกร่อน

อาการของโรคกรดไหลย้อน

วิธีการรักษาโรคกรดไหลย้อน มี 3 แบบได้แก่ 

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวัน
การรับประทานอาหาร

  • รับประทานอาหารในปริมาณพอเหมาะ ไม่อิ่มเกินไป
  • หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารไขมันสูง อาหารรสจัด ชา กาแฟ น้ำอัดลม 
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและท่าทางที่มีการก้มตัวหรือเกร็งท้องหลังรับประทานอาหาร
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อดึก
  • เว้นระยะเวลาอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงหลังมื้ออาหาร ก่อนเอนตัวหรือเข้านอน 
  • งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
     

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม แนะนำการลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่สบายตัว ไม่คับเกินไป
  • หากมีอาการกรดไหลย้อนหลังเข้านอนตอนกลางคืน แนะนำให้หนุนหัวเตียงสูงประมาณ 20 ซม. เพื่อยกลำตัวส่วนบนและศีรษะให้สูงขึ้น

การรักษาด้วยยา

  • หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการรับประทานอาหารแล้ว อาการกรดไหลย้อนยังไม่ดีขึ้น แพทย์จะสั่งยาเพื่อการรักษา ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่ง โดยรูปแบบมีทั้งการรับประทานยาประจำอย่างต่อเนื่อง หรือการรับประทานยาเป็นครั้งคราวตามอาการ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของโรคกรดไหลย้อนในแต่ละบุคคล

การรักษาด้วยการผ่าตัด

  • ในกรณีผู้ป่วยได้รับการตรวจยืนยันว่าเป็นกรดไหลย้อนแล้ว ยังมีอาการรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา หรือได้รับผลข้างเคียงจากการรับประทานยา หรือมีปัญหาในการรักษาด้วยยาในระยะยาว แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อเสริมแรงหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง ทำให้หูรูดหลอดอาหารแน่นขึ้น 

 

ที่มาข้อมูล-ภาพ